เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ทางการจีน เริ่มการผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์โรคโควิด-19 เป็นบางส่วนในพื้นที่ 21 หัวเมืองทั่วประเทศ โดยที่กรุงปักกิ่ง ประชาชนที่จะใช้บริการขนส่งสาธารณะ ไม่ต้องแสดงผลการตรวจหาเชื้อโควิด-19 เป็นลบภายใน 48 ชั่วโมงก่อนใช้บริการ และอนุญาตให้ผู้ป่วยโควิด-19 ที่อาการไม่รุนแรง สามารถรักษาตัวที่บ้านได้
ที่นครเซี่ยงไฮ้ และนครเสิ่นหยาง ประชาชนไม่ต้องแสดงผลการตรวจหาเชื้อเป็นลบ ภายในเวลา 72 ชั่วโมงก่อนใช้บริการรถไฟใต้ดิน ส่วนที่เมืองอุรุมฉี (Urumqi) ทางการอนุญาตให้โรงภาพยนตร์กลับมาเปิดบริการเป็นครั้งแรกในรอบหลายเดือน
ทางการจีน ยังไม่มีการออกมาประกาศการยกเลิกนโยบายโควิดเป็นศูนย์ อย่างเด็ดขาด ซึ่งบรรดาผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพและนักวิเคราะห์เศรษฐกิจ คาดการณ์ว่า รัฐบาลจีน จะยกเลิกนโยบายโควิดเป็นศูนย์ อย่างเด็ดขาดในช่วงกลางปี 2566 หรืออาจเลยไปถึงปี 2567 ขึ้นอยู่กับว่า ประชาชนจีนจะเข้ารับการฉีดวัคซีนต้านโรคโควิด-19 ในอัตราสูงเพียงพอหรือไม่
โดยเมื่อสัปดาห์แล้ว รัฐบาลจีน ให้วัคซีนต้านโรคโควิด-19 กับกลุ่มประชากรสูงอายุเกินกว่า 70 ปีขึ้นไป เพื่อบรรลุเป้าหมายนโยบายโควิดเป็นศูนย์ ของประธานาธิบดี สี จิ้น ผิง ผู้นำของจีน
อย่างไรก็ตาม การผ่อนคลายความเข้มงวดตามเมืองต่าง ๆ รวมทั้งในกรุงปักกิ่ง ได้สร้างความสับสนให้กับประชาชนบางส่วน เนื่องจากมองว่ารัฐบาลกลางยังไม่มีการกำหนดนโยบายที่มีความชัดเจน
ขณะเดียวกัน เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ยังคงมีกลุ่มนักศึกษาหลายสิบคนออกมารวมตัวประท้วงนโยบายโควิด ภายในมหาวิทยาลัยอู่ฮั่น มณฑลหูเป่ย์ ท่ามกลางฝนที่โปรยปรายลงมา พร้อมเรียกร้องให้รัฐบาลเปิดเผยข้อมูลอย่างโปร่งใส
