ข่าวภาคค่ำ - ทุนจีนสีเทา ยังเป็นเรื่องชวนเสียวสันหลังของผู้คนในหลายวงการ ทั้งธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ไปจนถึงนักการเมือง ล่าสุดตำรวจขยายผลเส้นทางการเงิน พบนอมินีเพียบ คืบหน้าอย่างไร มีข้อกฎหมายใดเกี่ยวข้องบ้าง ติดตามในคอลัมน์หมายเลข 7 กับคุณมะลิ แซ่ฉิ่น
หญิงสาวชาวไทย 2 คน คือ พัชรินทร์ และ หลิน ที่ถูกระบุว่ามีชื่ออยู่ในระดับบริหารธุรกิจ คู่กับ นายตู้ห่าว หรือ ชัยณัฐร์ กรณ์ชายานันท์ หอบหลักฐานเข้าพบพนักงานสอบสวน เพื่อชี้แจงที่มาของรายได้ และการเข้าไปมีบทบาทในธุรกิจของ ตู้ห่าว
โดยพบ 1 ใน 2 สาวไทยถือหุ้น 2 ใน 23 บริษัท ที่อยู่ในอาณาจักรทรัพย์สินของ ตู้ห่าว รวมทุนจดทะเบียนบริษัททั้งหมดมากกว่า 1,000 ล้านบาท ส่วนอีกหนึ่งสาวเป็นเลขาฯ คนสนิทของตู้ห่าว ซึ่งตำรวจเชื่อว่าทั้ง 2 คนน่าจะเป็นนอมินีให้กับทุนจีนสีเทารายนี้
สองสาวไทยที่เข้าพบตำรวจวันนี้ เป็นเพียงส่วนหนึ่งของบุคคลที่เข้ามาเกี่ยวพันกับธุรกิจของ ตู้ห่าว โดยที่สะเทือนไปถึงการเมือง ก็เพราะมีธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในจังหวัดภูเก็ต มีภรรยา สส.ที่เป็นบุตรสาวของอดีตรองนายกรัฐมนตรี ในรัฐบาลชุดที่แล้วร่วมอยู่ด้วย ส่วนจะพัวพันถึงทุนจีนสีเทาหรือไม่ เป็นเรื่องที่ตำรวจกำลังขยายผล
เส้นทางการฟอกเงินใต้ดินให้มาอยู่บนดินผ่านธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ เป็นอีกหนึ่งช่องทางที่ทุนจีนสีเทานำมาใช้ ที่ฮือฮาที่สุดก็คือการกว้านซื้อคฤหาสน์หรู 50 หลัง จาก 66 หลัง ทั้งโครงการมูลค่ากว่า 2,500 ล้านบาท จนเป็นเหตุให้บริษัทเจ้าของโครงการ ต้องออกแถลงการณ์ยืนยันไม่เอี่ยวกับทุนจีนสีเทา พร้อมปกป้องผู้ถือหุ้นว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการซื้อขายบ้านของบริษัทในทุกกรณี
เมื่อตรวจสอบข้อมูลเกี่ยวกับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์กับทุนจีน พบว่า ทำกันมานานแล้ว โดยเอาเงินเข้ามาลงทุนสร้างหมู่บ้านจัดสรรเอง แล้วก็ขายให้กับคนจีนกันเอง มุมหนึ่งก็เป็นโอกาสทางธุรกิจ แต่ในอีกมุมหนึ่งก็อาจจะเป็นภัยคุกคามด้านที่อยู่อาศัยของคนในประเทศ
ทุนจีนสีเทา ยังคงเป็นมหากาพย์ที่ต้องติดตามใกล้ชิด ว่าธุรกิจขนาดใหญ่เช่นนี้ จริงหรือไม่ว่ามีแบ็กดี ที่สำคัญคือจะโยงใยไปถึงนักการเมืองระดับชาติจริงหรือเปล่า จะปิดคดีกันอย่างไร ต้องมีคำตอบที่ชัดเจนให้กับสังคม
