สนามข่าว 7 สี - คดียูฟัน ผ่านมา 8-9 ปีแล้ว ผู้เสียหายกลุ่มหนึ่งบอกว่า ยังไม่ได้เงินจากการอายัดทรัพย์มาแม้แต่บาทเดียว ซ้ำยังทราบข่าวว่า จำเลย "อดีตแม่ข่าย" 2 ราย ที่ถือครองทรัพย์สินจำนวนมากในคดีนี้ ว่าจ้างทนายความเข้ายื่นขอทรัพย์ของกลางคืนจากตำรวจ เนื่องจากพ้นโทษจากเรือนจำ จึงรวมตัวไปสอบถามข้อเท็จจริง
ตัวแทนกลุ่มผู้เสียหายคดีแชร์ลูกโซ่ "ยูฟัน" เข้าสอบถามข้อเท็จจริงกับ พลตำรวจตรี ณัฐศักดิ์ เชาวนาศัย รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง และ พลตำรวจตรี อนันต์ นานาสมบัติ ผู้บังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค หรือ บก.ปคบ. หลังทราบข่าวว่า จำเลยอดีตแม่ข่ายในคดีนี้ ว่าจ้างทนายความเข้ายื่นขอทรัพย์ของกลางคืนจากตำรวจ เนื่องจากพ้นโทษจากเรือนจำ
หนึ่งในผู้เสียหาย เปิดเผยว่า ปัจจุบันคดีแชร์ลูกโซ่ "ยูฟัน" อยู่ระหว่างการพิจารณาคดีในชั้นศาลฎีกา แต่ไม่ใช่จำเลยทั้งหมดที่ยื่นฎีกา เนื่องจากทราบว่า มีจำเลย 2 คน ซึ่งเคยเป็นแม่ข่ายในคดีนี้ ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษาจำคุก 20 ปี ไม่ได้ยื่นขอฎีกาต่อ แล้วต่อมาทราบข่าวว่าได้รับโทษครบตามกำหนดเวลา หลังการลดหย่อนโทษเนื่องในวันสำคัญต่าง ๆ จากนั้นอดีตจำเลยได้ว่าจ้างทนายความ เข้าดำเนินการติดตามทรัพย์สินของตนเองคืน จึงทำให้กลุ่มผู้เสียหายกลุ่มที่กำลังรอการบังคับคดีจาก สำนักงานกรมบังคับคดีแพ่ง กรุงเทพมหานคร 1 เกิดความกังวลว่าจะไม่ได้รับการเฉลี่ยทรัพย์สิน หรือได้รับลดน้อยลงไป จึงมาสอบถามข้อเท็จจริงเรื่องนี้กับผู้บังคับการ ปคบ. ว่า ตั้งแต่ปี 2558 ได้มีการอายัดทรัพย์อะไรไว้บ้าง และได้คืนทรัพย์สินให้ผู้ต้องหาหรือจำเลยไปหรือไม่
ขณะที่ พลตำรวจตรี ณัฐศักดิ์ เปิดเผยว่า จากข้อมูลการสืบสวนชุดก่อน ทราบว่า ทรัพย์สินที่อยู่ในความดูแลของ บก.ปคบ. มีมากกว่า 800 รายการ ส่วนที่เกี่ยวข้องกับสำนวนคดีหลักถูกยื่นส่งฟ้องต่อศาลไปแล้ว และมีอยู่หลายคดีที่ยังไม่สิ้นสุด
ทั้งนี้ กลุ่มผู้เสียหายยังได้มอบดอกไม้เพื่อแสดงความขอบคุณ ที่ตำรวจสอบสวนกลางช่วยติดตามอายัดทรัพย์ และเร่งรัดคดีนี้ให้เป็นไปอย่างรวดเร็ว พร้อมฝากถึงผู้เสียหายรายอื่น ๆ ที่ยังไม่มาขอเฉลี่ยทรัพย์สิน ให้มาติดต่อสอบถามกับทางตำรวจ บก.ปคบ. เพื่อขอคำปรึกษาทางคดี
