สนามข่าว 7 สี - เจ้าหน้าที่การรถไฟแห่งประเทศไทย เข้าเก็บกู้ซากขบวนรถที่ถูกวางระเบิดที่ อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา แต่เดินเหยียบกับระเบิด ถือเป็นระเบิดลูกที่ 3 ทำให้เสียชีวิตทันที 3 คน บาดเจ็บอีก 4 คน ขณะที่ ฝ่ายความมั่นคง เตรียมยกระดับป้องกันพื้นที่เศรษฐกิจ หลังกลุ่มก่อความไม่สงบพยายามขยายพื้นที่ก่อเหตุ ลงสนามข่าวนี้กับ คุณเตชะวัฒน์ สุขรักษ์
นายดีเด่น คงสม หัวหน้าช่างแขวงรถจักรหาดใหญ่ เล่าวินาทีระทึก ขณะเดินนำอุปกรณ์ไปเก็บกู้ซากรถโบกีบรรทุกสินค้า 10 ตู้ ของรถไฟขบวน 707 ที่ถูกคนร้ายวางระเบิดถังดับเพลิง เมื่อวันที่ 3 ธันวาคม ที่ ตำบลท่าโพธิ์ อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา และ 1 วันถัดมา เจ้าหน้าที่ก็เก็บกู้ระเบิดลูกที่ 2 เป็นระเบิดถังก๊าซได้อีกลูก
ซึ่งวานนี้ ระหว่างเดิน 1 ใน 7 คน เหยียบกับระเบิดที่ฝังอยู่บริเวณหมอนทางรถไฟ ทำให้ระเบิดทำงาน ร่างเพื่อนพนักงาน 3 คน ลอยไปคนละทิศคนละทาง
ก่อนที่ นายภูมิพันธ์ เพชรสุก ผู้ช่วยสารวัตรแขวงรถจักรหาดใหญ่, นายยิ่งศักดิ์ ชุมตรี และ นายนวฤทธิ์ สุวรรณชาตรี ลูกจ้างแขวงรถจักรหาดใหญ่ เสียชีวิตทันที ส่วนเพื่อนพนักงานบาดเจ็บ 4 คน
หลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่อีโอดี วางแผนก่อนตรวจพื้นที่ละเอียด แต่อุปสรรคอยู่ที่เครื่องตรวจจับโลหะ เพราะทางรถไฟเป็นเหล็ก เครื่องจึงเตือนตลอด
เหตุที่เกิดขึ้นครั้งนี้ แม่ทัพภาคที่ 4 ยอมรับ 10 เดือนก่อน การข่าวแจ้งเตือนให้ระวังการก่อเหตุในพื้นที่อ่อนแอ โดยเฉพาะนอกเขตพื้นที่ความมั่นคง 4 อำเภอ ของจังหวัดสงขลา และ จังหวัดชายแดนภาคใต้
ซึ่งครั้งนี้วางระเบิดแบบกับระเบิด ห่างจุดแรกเพียง 250 เมตร จึงยืนยันได้ว่า ผู้ก่อเหตุหวังผลต่อชีวิตเจ้าหน้าที่ที่จะเข้าตรวจสอบพื้นที่ และเก็บพยานหลักฐาน
เหตุที่เกิดขึ้นเป็นการก่อเหตุรุนแรงอีกครั้งในพื้นที่จังหวัดสงขลา หลังเงียบหายไปนานหลายปี โดยเฉพาะจุดที่อยู่นอกพื้นที่ความมั่นคง และเป็นพื้นที่เศรษฐกิจ เช่น อำเภอหาดใหญ่ อำเภอสะเดา ซึ่ง ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา เตรียมยกเครื่องการเฝ้าระวังเหตุรุนแรงพื้นที่สำคัญ โดยกำหนดมาตรการถึงช่วงเทศกาลปีใหม่ ส่วนการก่อเหตุครั้งนี้ก็สั่งการให้ผู้นำชุมชนร่วมมือกับตำรวจ หาเบาะแสผู้ก่อเหตุให้เร็วที่สุด
แหล่งข่าวความมั่นคงให้ข้อมูล จุดนี้อยู่นอกเหนือพื้นที่เฝ้าระวัง จึงกลายเป็นจุดอ่อน ซึ่งคนร้ายหวังทำลายเส้นทางลำเลียงสินค้าระหว่างประเทศ รวมทั้งการเดินทาง และการท่องเที่ยว ล่าสุด มีการยกเลิกขบวนรถไฟท่องเที่ยวจากชุมทางหาดใหญ่ ไปยังกรุงกัวลาลัมเปอร์ เมืองหลวงมาเลเซีย ชั่วคราว ที่สำคัญเหตุนี้เชื่อมโยงการเมืองทั้งในและนอกประเทศ
