เช้านี้ที่หมอชิต - เข้มข้นขึ้นเรื่อย ๆ สำหรับสถานการณ์ทางการเมือง เพราะขยับเข้าใกล้การเลือกตั้งเข้าไปทุกที โดยเฉพาะมีคำตอบอนาคตทางการเมืองของ พลเอก ประยุทธ์ ที่จะเดินหน้าต่อ ขณะที่ นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ อาจเป็น 1 ในแคนดิเดต นายกรัฐมนตรี ของพรรคพลังประชารัฐ
หลังการประชุมคณะรัฐมนตรี วานนี้ สื่อมวลชนได้สอบถาม ถึงอนาคตทางการเมือง จากพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมอีกครั้ง ซึ่งครั้งนี้ นายกรัฐมนตรี บอกใบ้ให้นิด ๆ แล้วว่า ถึงวันนี้ก็พอจะรู้แล้วมั้ง เพียงแต่ไม่พูดเท่านั้นเอง แต่ก็ยังไม่บอกว่าจะไปสมัครเข้าเป็นสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติหรือไม่ หรือว่าจะเดินตามรอยการเมือง เหมือนช่วงก่อนการเลือกตั้งปี 2562 ที่ไม่เข้าสังกัดพรรคใด แต่ที่ยอมบอก คือเป้าหมายการทำงานในปีหน้าว่า ถ้าหากยังอยู่ต่อ ก็จะมีเวลาถึงปี 2568 และใช้เวลา 2 ปี ทำทุกอย่างให้ดีที่สุด ก่อนส่งต่อให้คนที่เหมาะสมมารับช่วงต่อ
มิ่งขวัญ เข้า พปชร.เพราะไร้ พล.อ.ประยุทธ์
ในขณะที่ พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ หลังเสร็จสิ้นการประชุมที่ทำเนียบรัฐบาล ก็เดินทางไปยังที่ทำการพรรคพลังประชารัฐ เพื่อเปิดตัวนายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ ที่เข้าร่วมเป็นสมาชิกพรรคพลังประชารัฐเรียบร้อยแล้ว โดยนายมิ่งขวัญบอกถึงเหตุผลของการเข้าร่วมพรรคพลังประชารัฐ ทั้ง ๆ ที่เป็นแกนนำของรัฐบาล ที่เคยประกาศจุดยืน ไม่เข้าร่วมรัฐบาลมาก่อนหน้านี้ว่า ต้องการเข้ามาเสริมทีมงานด้านเศรษฐกิจ และอีกเหตุผลหนึ่งคือ พลเอก ประยุทธ์ ไปร่วมงานพรรคการเมืองอื่นแล้ว
โดยการเข้ามาดูแลงานด้านเศรษฐกิจนี้ นายมิ่งขวัญ ยังพร้อมจะเป็นตัวแทนพรรคร่วมเวทีดีเบตในเวทีต่าง ๆ ในช่วงหาเสียงเลือกตั้งครั้งหน้า ซึ่ง พลเอก ประวิตร ก็รับจะนำเสนอชื่อให้เป็น 1 ในแคนดิเดตของพรรคต่อที่ประชุม แต่ทั้งนี้จะต้องขึ้นกับลูกพรรคว่าจะคิดเห็นอย่างไร
แกนนำ พปชร. ไม่รู้ มิ่งขวัญ จะเป็น 1 ในแคนดิเดต นายกฯ
ผู้สื่อข่าว ยังรายงานเพิ่มเติมด้วยว่า บรรยากาศก่อนการแถลงข่าวเปิดตัวนายมิ่งขวัญ เป็นไปอย่างชื่นมื่น สดใส และมีรอยยิ้ม แต่ในช่วงที่นายมิ่งขวัญ พูดถึงการจะมีชื่อเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี อีก 1 คนของพรรค สีหน้าของบรรดาแกนนำพรรคหลายคนที่ร่วมการแถลงข่าวเปิดตัว กลับเปลี่ยนไป จากที่ยิ้มแย้ม กลับนิ่งเฉยลง ทั้งนี้น่าจะเป็นเพราะไม่รู้มาก่อนว่าจะมีประเด็น หรือ ข้อตกลงดังกล่าวอยู่ในการเปิดตัวครั้งนี้ และเรื่องนี้ผู้สื่อข่าวได้พยายามสอบถามกับแกนนำพรรค ที่จับกลุ่มพูดคุยกัน และก็ได้คำตอบว่า ก่อนการแถลงข่าวเปิดตัว นายมิ่งขวัญ ขอเข้าพบกับ พลเอก ประวิตร เป็นการส่วนตัว และมีการพูดคุยกันประมาณ 15 นาที จึงตั้งข้อสังเกตว่า เรื่องแคนดิเดตที่พูดถึงนี้ เป็นเรื่องที่คุยกัน 2 คน หรือ พลเอก ประวิตร ได้ทราบเรื่องมาก่อนการแถลงข่าวหรือไม่
นอกจากนี้ประเด็นดังกล่าวที่สร้างความประหลาดใจแล้ว ในการแถลงข่าวครั้งนี้ ก็ใช้เวลาไม่นาน ก็ต้องจบลงแบบด่วน ๆ เนื่องจากว่าในช่วงการแถลงข่าวมีการเอ่ยถึง พลเอก ประยุทธ์ อยู่เป็นระยะ และมักมีคำถาม รวมถึงคำตอบที่เกี่ยวโยงไปถึงพลเอกประยุทธ์ จึงทำให้ มีการตัดบท และขอจบการแถลงข่าว โดยให้เห็นผลว่า ช่วงการตอบข้อซักถาม ไม่อยู่เฉพาะเรื่องการเปิดตัวเข้าพรรคของนายมิ่งขวัญ
พรรคเพื่อไทย เปิด 10 นโยบายหาเสียงสู้เลือกตั้ง
มาที่พรรคเพื่อไทยกันบ้าง ที่เปิด 10 นโยบายที่พรรคจะใช้สู้ศึกเลือกตั้ง หวังเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล อาทิ ค่าแรงขั้นต่ำ 600 บาทต่อวัน เงินเดือนสำหรับผู้จบปริญญาตรี 25,000 บาทต่อเดือน หลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า สามารถใช้บัตรประชาชนใบเดียวรักษาได้ทั่วประเทศ ไม่มีค่าใช้จ่าย พร้อมย้ำว่า ภายในปี 2570 จะมีรัฐธรรมนูญที่เป็นประชาธิปไตยเต็มใบ โดยนายกรัฐมนตรีถูกเลือกมาจากสภาผู้แทนราษฎร และมีการกระจายอำนาจบริหารราชการแผ่นดินจากส่วนกลางสู่ท้องถิ่นมากขึ้น ด้วยการจัดการเลือกตั้งผู้ว่าราชการจังหวัดในจังหวัดที่มีความพร้อม โดยนางสาวแพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ยืนยันว่า การตั้งครรภ์ไม่ใช่อุปสรรคต่อการหาเสียงแน่นอน และยินดี หากนายเศรษฐา ทวีสิน จะมาร่วมเป็นหนึ่งในแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีด้วย เพราะถือเป็นคนเก่ง มีความสามารถ
