ชาวโรฮีนจา 48 คน ร้องไห้ระงม ถูกตำรวจสกัดจับรวบตัว

View icon 90
วันที่ 8 ธ.ค. 2565 | 06.11 น.
เช้านี้ที่หมอชิต
แชร์
เช้านี้ที่หมอชิต - ตำรวจทางหลวง จังหวัดราชบุรี จับกุมชาวโรฮินจา 48 คน ลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฏหมาย นั่งรถบัสท่องเที่ยวตบตา เจ้าหน้าที่จากจังหวัดสุพรรณบุรี มุ่งหน้าไปยังอำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา พร้อมจับกุมคนขับรถและพวกเป็นคนไทย รวม 3 คนซึ่งเป็นผู้นำพา ท่ามกลางเสียงร้องไห้ระงมด้วยความหวาดกลัวทั้งผู้หญิงและเด็ก ขณะถูกควบคุมตัว

เป็นภาพเหตุการณ์ขณะที่หญิงชาวโรฮินนับสิบคนและเด็กที่ถูกจับกุม กำลังร้องไห้ระงมด้วยความหวาดกลัว ภายหลังถูกตำรวจกองกำกับการ 2 กองบังคับการตำรวจทางหลวง จับกุมขณะนั่งรถบัสมุ่งหน้าไปยังพื้นที่ภาคใต้ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา เมื่อเวลา 05.30 น.วานนี้ (7 ธ.ค.) โดยถูกตำรวจทางหลวงวังมะนาว เรียกสกัดจับบนถนนเพชรเกษม ฝั่งขาออกช่วงหลักกิโลเมตรที่ 124-125 ในพื้นที่ตำบลวังมะนาว อำเภอปากท่อ จังหวัดราชบุรี

จังหวะนั้นตำรวจได้ขับรถไล่ตามไปพร้อมกับส่งสัญญาณให้หยุดรถ พร้อมสอบถามคนขับคือนายสมศักดิ์ ดำนิล อายุ 28 ปีเป็นชาวอำเภอห้วยยอด จังหวัดตรัง ว่า จะไปไหน แต่ปรากฏว่า นายสมศักดิ์แสดงท่าทางอ้ำอึ้ง พร้อมกับมีท่าทีพิรุธต้องสงสัย บอกจุดหมายปลายทางที่จะไปไม่ถูก เจ้าหน้าที่จึงขอตรวจค้นในรถ พบ นายพงศ์ภัค รามพรหม อายุ 62 ปี และ นางสาวมณทา โคตรพงษ์ อายุ 52 ปีนั่งมาในรถด้านหน้าข้างคนขับ และพบแรงงานประเทศเพื่อนบ้านเป็นชาวโรฮินจาทั้งหมด 48 คน นั่งอยู่ในรถเป็นชาย 18 คน หญิง 30 คน และเด็กจำนวน 5 คน จึงคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.ปากท่อ ดำเนินคดีข้อหา เป็นบุคคลต่างด้าวเข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต

ขณะที่คนไทยทั้ง 3 คน ถูกดำเนินคดีในข้อหา ร่วมกันนำพาบุคคลต่างด้าว เข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต และข้อหาร่วมกันช่วยเหลือด้วยประการใด ๆ เพื่อให้คนต่างด้าวนั้นพ้นจากการถูกจับกุม โดยผู้ต้องหาทั้ง 3 คน บอกว่า รับชาวโรฮินจาทั้งหมดมาจากจังหวัดสุพรรณบุรี พาไปส่งที่อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ส่วนจะไปที่จุดไหนจะมีคนโทรศัพท์มาแจ้งอีกที ได้ค่าจ้างคนละ 1,000 บาท แต่ตำรวจไม่ปักใจเชื่อโดยจะสอบสวนขยายผลจับกุมเพื่อนร่วมขบวนการต่อไป 

จากการสอบสวนหนึ่งในชาวโรฮินจาที่ถูกจับกุม บอกว่า มาจากรัฐยะไข่ ประเทศเมียนมา โดยเดินเท้าผ่านเข้ามาทางช่องทางธรรมชาติฝั่งอำเภอแม่สอด จังหวัดตาก จากนั้นมีกลุ่มคนไทยขับรถกระบะมารับ และพามาส่งขึ้นรถบัสที่จุดนัดหมาย โดยจะจ่ายเงินเป็นค่าเดินทางและค่านายหน้าให้กลุ่มคนชาวไทย เมื่อเดินทางถึงที่หมายปลายทางแล้ว โดยมีบางส่วนไปทำงานก่อสร้าง ทำงานลูกเรือประมง และบางคนก็ต้องการเดินทางต่อไปยังประเทศมาเลเซีย