เช้าข่าว 7 สี - ตำรวจไซเบอร์ เตือนผู้ที่สนใจลงทุนผ่านทางระบบออนไลน์ต้องเพิ่มความระมัดระวัง และศึกษาข้อมูล และแหล่งที่มาการลงทุนให้ชัดเจน หลังพบว่ายอดการแจ้งความออนไลน์เกี่ยวกับการลงทุน พุ่งขึ้นมาเป็นอันดับหนึ่งเกือบ 10,000 เรื่อง มูลค่าความเสียหายมากกว่า 5,000 ล้านบาท
พลตำรวจโท วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือตำรวจไซเบอร์ เปิดเผยข้อมูลการรับแจ้งความผ่านทางระบบออนไลน์ ตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม ถึง 30 กันยายน 2565 พบว่ามีการหลอกลงทุนในรูปแบบต่าง ๆ 9,915 เรื่อง หรือคิดเป็น 10.37% ของการรับแจ้งความออนไลน์ทั้งหมด มีมูลค่าความเสียหายกว่า 5,145 ล้านบาท สูงเป็นอันดับ 1 จากมูลค่าความเสียหายทั้งหมด
จึงเตือนให้ระมัดระวังมิจฉาชีพที่อาจใช้กลโกงต่าง ๆ มาหลอกลวง ส่วนใหญ่พบมีการใช้ 10 กลโกง อาทิ คำโฆษณาที่สวยหรู, ใช้ความเห็นใจให้ร่วมทำบุญบริจาค, และอีกหนึ่งรูปแบบที่พบการหลอกลวงเพิ่มมากขึ้น คือ การหลอกลงทุนในตลาดแลกเปลี่ยนสกุลเงินดิจิทัล และการหลอกลงทุนขุดเหรียญ ขอให้ตรวจสอบข้อมูลให้ชัดเจนก่อนการลงทุน โดยสอบถามได้ที่สายด่วนตำรวจไซเบอร์ 1441 หรือเลือกลงทุนกับแหล่งซื้อขายที่ได้รับการรับรองจากหน่วยงานต่าง ๆ
ด้าน นายโลแกนนาทัน เรกกานาธัน ผู้บริหารแพนโดโปรเจค-บล็อคเชน เปิดเผยว่า จากข้อมูลพบว่าประเทศไทย มีมูลค่าการทำธุรกรรมคริปโตโคเรนซีมากถึง 1.35 แสนล้านดอลลาร์ในระยะเวลาเพียง 1 ปี จึงเป็นจุดสนใจของเหล่านักทุนทั้งในและต่างประเทศ เป็นจุดสำคัญของอุตสาหกรรมคริปโตในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งการลงทุนต่าง ๆ ผู้ลงทุนต้องมีข้อมูลเกี่ยวกับเงินสกุลดิจิทัลที่จะลงทุนที่ชัดเจนถูกต้อง ปัจจุบันมีระบบที่สามารถใช้ในการศึกษาข้อมูล และลงทุนได้อย่างระบบ Blockchain ซึ่งในการประชุมภายในงาน World Blockchain Summit ครั้งที่ 23 ที่โรงแรม เดอะ แอทธินี โฮเทล ในวันนี้ จะมีการหยิบยกเรื่องนี้ไปหารือกับผู้ร่วมการประชุมและเครือข่าย หาแนวทางแนะนำการลงทุนและเจราจรธุรกิจที่ปลอดภัยเกี่ยวกับเงินสุกลดิจิทัล และระบบบล็อคเชน เพื่อรับการเติบโตของธุรกิจนี้ในไทย
