สนามข่าว 7 สี - เป็นประเด็นกันอีกครั้งสำหรับวงการสงฆ์ประเทศไทย เมื่อเจ้าอาวาสวัดดังในรัฐฟอริดา ประเทศสหรัฐอเมริกา ร้องผ่านมูลนิธิทนายกองทัพธรรมให้ช่วยเหลือ หลังจากทราบว่าเงินนิตยภัต หรือ เงินเดือนพระ ที่สำนักงานพระพุทธศาสนาโอนถวายในทุก ๆ เดือน ไม่มีพบยอดเงินเข้าบัญชีนานร่วมปี นอกจากนี้ยังพบมีพระหลายรูปโดนในลักษณะเดียวกันอีกด้วย
พระครูสุตญาณวิเทศ เจ้าอาวาสวัดมหาธาตุเจติยาราม รัฐฟลอริดา ประเทศสหรัฐอเมริกา พร้อมด้วย ทนายอนันต์ชัย ไชยเดช ประธานมูลนิธิทนายกองทัพธรรม เข้ายื่นเรื่องกับ นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ผ่านทางศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ทำเนียบรัฐบาล เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 8 ธันวาคมที่ผ่านมา เพื่อให้ตรวจสอบกับทางสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ หลังทางเจ้าอาวาสรูปดังกล่าว ร้องเรียนว่าถูกโกงเงินนิตยภัต จากทางสำนักงานพระพุทธพุทธศาสนาแห่งชาติ มาตั้งแต่ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2564 จนถึงปัจจุบันก็ยังไม่ได้รับเงินดังกล่าว ที่จะโอนเข้าบัญชีเงินฝากที่ได้ยื่นเรื่องไปกับทางสำนักงานฯ
ซึ่งทาง พระครูสุตญาณวิเทศ เปิดเผยว่า หลังทราบว่าไม่ได้รับเงินดังกล่าว จึงได้มีการทวงถามไปยังสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ก่อนหน้าที่จะตัดสินใจมาร้องกับทางมิลนิธิฯ แล้ว แต่ก็ได้รับการบ่างเบี่ยง โดยได้รับแจ้งเพียงว่าได้ให้กับพระรูปอื่นไปแล้ว ไม่สามารถจ่ายเงินให้ได้ ต่อมาก็ได้ติดต่อมาอีกว่า เงินนิตยภัตประจำเดือนนั้น ได้คืนกองคลังไปเรียบร้อยแล้ว จึงสงสัยว่าเหตุใดจึงคืนเงินไปที่กองคลัง นอกจากนี้ยังมีพระอีกหลายรูปที่เดินทางไปเป็นพระธรรมทูตในต่างประเทศ ก็ยังไม่ได้รับเงินนิตยภัตเช่นเดียวกัน
ด้าน ทนายอนันต์ชัย ไชยเดช ประธานมูลนิธิทนายกองทัพธรรม เปิดเผยว่า ตนเองมองว่าเรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องใหญ่ เพราะมีพระประมาณ 10,000 รูป จำนวนเงินถึงหลักร้อยล้านบาทที่ไม่ได้รับ ซึ่งเงินนี้เป็นเงินที่พระมาหากษัตย์ พระราชทานให้แก่พระที่ได้รับสมณศักดิ์ ระดับตั้งแต่พระเลขาธิการฯ พระสังฆาธิการ พระเปรียญธรรม 9 ประโยค ขึ้นไป ซึ่งจะได้รับตามความเหมาะสม เริ่มต้นที่ประมาณ 1,200 บาท ในระดับชั้นเลขานุการเจ้าคณะตำบล จนถึงระดับ สมเด็จพระสังฆราชเจ้า จะได้เงินนิตยภัตที่ประมาณ 37,700 บาท โอนให้ในทุก ๆ เดือน
ทนายอนันต์ชัย ยังกล่าวอีกว่าหลังจากนี้ตนเองจะให้เวลา 15 วัน ที่ทางสำนักงานพระพุทธศาสนา ต้องให้ได้ว่าเงินหายไปได้อย่างไร หากครบกำหนดแล้วยังไม่ได้รับคำตอบ ก็จะยื่นถวายฎีกาถึงพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
