สนามข่าวเสาร์-อาทิตย์ - ทนายตั้ม พาหญิงกัมพูชา ที่ถูกชายชาวโปแลนด์ทำร้ายร่างกาย และใช้น้ำกรดสาดใบหน้า จนต้องเย็บแผลถึง 260 เข็ม ไปขอความเป็นธรรมกับรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ให้ช่วยเร่งรัดคดี จับกุมผู้ก่อเหตุที่ทราบว่าหลบหนีไปต่างประเทศแล้ว กลับมาดำเนินคดีตามกฎหมาย
นายษิทรา เบี้ยบังเกิด เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ พาหญิงชาวกัมพูชา ผู้เสียหาย กับ นายไมเคิล นายจ้าง ชาวออสเตรเลีย เข้าพบ พลตำรวจเอก สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เพื่อขอให้ช่วยติดตามความคืบหน้าคดี ที่ผู้เสียหายถูกล่อลวงไปทำงานวาดภาพที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งในจังหวัดชลบุรี ก่อนถูกจับตัวไปทำร้ายร่างกายจนเป็นแผลหลายแห่ง และถูกน้ำกรดสาดที่ใบหน้า จนได้รับบาดเจ็บสาหัส แพทย์ต้องเย็บแผล 260 เข็ม เพื่อรักษาอาการบาดเจ็บ เหตุเกิดบริเวณป่ารกร้าง ใกล้กับร้านอาหาร ในซอยนาเกลือ 16 ตำบลหนองปรือ อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายนที่ผ่านมา
ทนายษิทรา เปิดเผยว่า คดีนี้ตำรวจในพื้นที่ดำเนินการล่าช้า จึงมาขอให้ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ช่วยเร่งรัดติดตามความคืบหน้า พร้อมกับขอให้ดูแลเรื่องความปลอดภัยของผู้เสียหายด้วย
ด้าน หญิงชาวกัมพูชา ผู้เสียหาย บอกว่า ตนเองเป็นจิตรกร มีหญิงชาวไทยใช้โพรไฟล์ปลอมติดต่อมาว่าอยากให้ช่วยวาดรูป และนัดหมายไปพบกันที่ร้านอาหารใกล้ที่เกิดเหตุ หลังได้พบหน้าและพูดคุยกัน จู่ ๆ ก็มีชายคนหนึ่งเดินมาล็อกตัวจากด้านหลัง และมีชายอีกคนมาล็อกขา พาไปป่ารกร้างที่อยู่หลังร้านอาหาร ก่อนจะถูกทำร้ายร่างกายดังกล่าว ส่วนสาเหตุคาดว่ามาจากเรื่องหึงหวงที่เห็นตนทำงานร่วมกับ นายไมเคิล ผู้ว่าจ้าง
ส่วน นายไมเคิล ก็พูดในทำนองเดียวกัน โดยคาดว่าอดีตภรรยาเป็นคนจ้างวานให้ชาวโปแลนด์ไปทำร้ายผู้เสียหาย
ขณะที่ พลตำรวจเอก สุรเชษฐ์ ระบุว่า ได้สอบถามความคืบหน้ากับผู้กำกับการ สภ.บางละมุง แล้ว พบว่าคดีนี้ยังไม่มีการสอบปากคำผู้เสียหาย เพราะว่าก่อนหน้านี้ยังได้รับบาดเจ็บอยู่ แต่มีการรวบรวมพยานหลักฐานไว้ส่วนหนึ่งแล้ว ส่วนจะครบถ้วนสมบูรณ์หรือไม่ จะเรียกผู้กำกับการฯ มาชี้แจงในวันอาทิตย์นี้อีกครั้ง ทั้งนี้ ยืนยันว่าคดีไม่มีความซับซ้อน หากสามารถออกหมายจับได้แล้ว จะดำเนินการออกหมายแดงควบคู่กันไป เพื่อนำไปใช้ติดตามจับกุมผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมาย
ทั้งนี้ พลตำรวจเอก สุรเชษฐ์ ยังบอกว่า มีกำหนดการต้องเดินทางไปประชุมคดีค้ามนุษย์ที่ประเทศฟิลิปปินส์ ในวันที่ 13 ธันวาคม ซึ่งจะนำคดีนี้ไปประสานกับทางการของฟิลิปปินส์ เพื่อให้ช่วยติดตามสืบสวนจับกุมผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีในไทยด้วย