กรมขนส่งฯ พร้อมให้ตรวจสอบการประมูลทะเบียนสวย

View icon 93
วันที่ 13 ธ.ค. 2565 | 11.24 น.
ห้องข่าวภาคเที่ยง
แชร์
ห้องข่าวภาคเที่ยง - อธิบดีกรมการขนส่งทางบก พร้อมเปิดทางให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบ การเปิดประมูลทะเบียนเลขสวย หลังสังคมตั้งข้อสังเกตุ ผู้ชนะการประมูลเคยทำธุรกิจผิดกฎหมาย

หลังเพจเฟซบุ๊ก สายไหมต้องรอด ได้ออกมาตั้งข้อสังเกต การประมูลทะเบียนรถเลขสวยพิเศษ 9กก 9999 ซึ่งมีผู้ประมูลไปด้วยราคาสูงสุดเป็นประวัติการณ์ 45 ล้านบาท โดยโพสต์ข้อความระบุว่า "เดี๋ยวนี้เจ้าของเว็บพนันเขาหันมาเก็บสะสมป้ายทะเบียนแทนเงินสดกันแล้วหรอ?? ปปง.-สตช. ทำอะไรกันอยู่ ฝาก บิ๊กเด่น-บิ๊กโจ๊ก ตรวจสอบที สายไหมต้องรอด พร้อมชี้เป้า ๆ"

นายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก เปิดเผยว่า เรื่องการตรวจสอบเส้นทางการเงิน เป็นหน้าที่ของตำรวจและคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ส่วนกรมการขนส่งทางบก ซึ่งเป็นผู้จัดประมูล ก็มีระเบียบหลักเกณฑ์ในการเปิดประมูล หากผู้ที่สนใจเข้ามาประมูลเลขสวยดำเนินการตามขั้นตอนข้อกำหนด ก็จะมีสิทธิที่จะเข้าประมูลเลขทะเบียนเลขสวยได้ทุกคน แต่ทั้งนี้ก็พร้อมให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ ส่วนขั้นตอนการจ่ายเงิน หากตำรวจตรวจพบว่ามีความผิดปกติทางการเงินของผู้ประมูลหมายเลขใดเลขหนึ่ง ก็เป็นหน้าที่ของตำรวจ และ ปปง.ที่จะอายัดเส้นทางการเงิน ซึ่งขนส่งทางบกมั่นใจว่าจะไม่กระทบต่อการประมูลในครั้งต่อ ๆ ไปแน่นอน

ส่วนประเด็นที่ว่าการประมูลทะเบียนเลขสวย หมวด 9กก 9999 มีผู้ประมูลได้ราคาสูงสุดกว่า 45 ล้านบาท ซึ่งเป็นราคาที่สูงสุดในประวัติศาสตร์ที่เคยประมูลมานั้น ในเรื่องนี้ต้องทำความเข้าใจว่า ก่อนหน้านั้นกองทุนเพื่อความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน หรือ กปถ. ได้เปิดประมูลเลขสวยหมวด 8กก 8888 ก็มีผู้สนใจเข้ามาประมูลมาก และมีราคาสูงถึง 28 ล้านบาท ดังนั้น หากเลขทะเบียนหมวด 9กก 9999 เมื่อเปิดประมูล ขนส่งก็เคยมีการประมาณการแล้วว่าหมวดดังกล่าวต้องราคาสูงกว่า 30 ล้านแน่นอน เนื่องจากเป็นเลข 9 และหมวดอักษร กก

ตร.พร้อมร่วมตรวจสอบ ผู้ประมูลป้ายทะเบียนรถ
ด้าน พลตำรวจโท สันติ ชัยนิรามัย จเรตำรวจ ยืนยันว่า เรื่องการดำเนินคดีอาญากับ นายแทนไท ผู้ชนะการประมูลป้ายทะเบียนสวย จบไปแล้ว โดยอัยการสูงสุดมีความเห็นชี้ขาดสั่งไม่ฟ้องเฉพาะตัว นายแทนไท ไปตั้งแต่ปี 2563 แต่ที่มีการตั้งข้อสังเกตกันในเรื่องนี้ ตำรวจจะร่วมกับกรมการขนส่งทางบก ตรวจสอบที่มาของทรัพย์สินที่ใช้ในการประมูล ว่าเกี่ยวข้องกับคดีฟอกเงินที่เคยถูกจับกุมหรือไม่ ซึ่งเป็นการดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ปกติที่ทำได้ และหลังจากนี้จะมีการหารือวางแนวทางป้องกัน ไม่ให้เรื่องนี้กลายเป็นช่องทางในการฟอกเงินขึ้นมาได้