เช้านี้ที่หมอชิต - ข่าวนี้ตามกันต่อกับประเด็นน้ำมันขาดแคลนในพื้นที่ต่างจังหวัด โดยเฉพาะดีเซล ช่วงนี้เกษตรกรใช้เยอะ แต่กลับไม่มีให้เติม เจ้าของปั๊มเองก็กุมขมับ ลุ้นว่าจะต้องเตรียมพับกิจการหรือไม่ เพราะน้ำมันหามาขายลำบาก หนำซ้ำเจอราคาขายส่งที่แพงกว่าเจ้าใหญ่ ๆ จนบวกลบขายหน้าปั๊มแพงกว่าเขาเฉลี่ย 3 บาทต่อลิตร ยิ่งไปทางใต้ ปั๊มรายย่อยแพงกว่าปั๊มเจ้าใหญ่กันถึง 6 บาทต่อลิตรเลยด้วยซ้ำ
ปัญหานี้ ทีมข่าวของเรา ตรวจสอบกับ อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน ว่าสถานการณ์เช่นนี้จะคลี่คลายเมื่อไหร่ แล้วอะไรเป็นสาเหตุน้ำมันหายไป ไล่เรียงทีละประเด็นพร้อม ๆ กัน
ปัญหาเรื่องนี้มีสองประเด็นหลัก คือ ปริมาณน้ำมันเพียงพอหรือไม่ กับราคาขายส่งหน้าคลังน้ำมันมีความเท่าเทียมหรือเปล่า เราเริ่มที่ประเด็นปริมาณน้ำมัน ไปไม่ถึงหน้าสถานีบริการน้ำมัน หรือ ปั๊มน้ำมันของรายย่อยตามต่างจังหวัดกันก่อน เรื่องนี้อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน ชี้แจงว่า ประเทศไทยมีน้ำมันเพียงพอ แต่ที่เกิดปัญหา อาจมาจากความต้องการใช้น้ำมันที่เพิ่มขึ้น อีกทั้งระบบขนส่งน้ำมันเกิดปัญหา จนทำให้การทำรอบในการวิ่งส่งน้ำมันลดลง
อีกปมคือ เรื่องราคาขายส่งหน้าคลังน้ำมัน และโรงกลั่น ซึ่งปั๊มน้ำมันรายย่อยได้รับราคาสูงกว่ารายใหญ่
คำถามที่ตามมาคือ ตกลงแล้วปัญหาน้ำมันมีไม่พอกับความต้องการใช้ จะยุติเมื่อไหร่ ได้รับคำชี้แจงว่าน่าจะจบภายในสัปดาห์นี้ เพราะ 2 โรงกลั่นที่ปิดซ่อมบำรุงไป กลับมาเปิดตามปกติแล้ว
ฟังแบบนี้เหมือนจะอุ่นใจ แต่ผู้ประกอบการปั๊มน้ำมันในจังหวัดอุทัยธานี บอกว่า ยังไม่วางใจ เพราะราคาหน้าคลังน้ำมันก็ยังสูงอยู่ และไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ น้ำมันสำเร็จรูปที่นำออกมาจากปริมาณการสำรองจะมาถึงเมื่อไร จึงทำให้ผู้ค้าในต่างจังหวัดหลายรายอยากให้เร่งแก้ไขให้เร็วที่สุด เพราะตอนนี้ทุกคนอยู่ในภาวะเกือบขาดทุน โดยทนอยู่ในสภาพนี้มาเกือบสองเดือนแล้ว
ตามเสียงคำขอเมื่อครู่นี้ ฝากไปดัง ๆ ถึงรัฐ เข้ามาดูแลคุมราคาขายส่งให้เกิดความเป็นธรรมเร็ว ๆ เพราะ ผู้ค้ารายย่อยนี้ เชื่อมต่อไปถึงอีกหลายชีวิตในวงจรเช่นกัน
