สถานปฏิบัติธรรม แจง ไม่เคยเรียกรับเงิน หรือปลูกฝังความเชื่องมงาย จ.บุรีรัมย์

View icon 176
วันที่ 16 ธ.ค. 2565 | 06.12 น.
เช้านี้ที่หมอชิต
แชร์
เช้านี้ที่หมอชิต - ตามกันต่อกับกรณีอดีตลูกศิษย์วัดแห่งหนึ่ง จังหวัดบุรีรัมย์ ที่ออกมาแฉสถานปฏิบัติธรรมดังกล่าวปลูกฝังความเชื่อประหลาด และเข้าข่ายฟอกเงิน ล่าสุด ผู้ก่อตั้งสถานปฏิบัติธรรม ออกมาปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ยืนยันไม่มีส่วนเกี่ยวข้องสถานปฏิบัติธรรมอื่น ๆ

ทีมข่าวเช้านี้ที่หมอชิต ลงพื้นที่ไปยังสถานปฏิบัติธรรมแห่งหนึ่ง ในจังหวัดบุรีรัมย์ ที่เป็นข้อพิพาธว่าปลูกฝังความเชื่อแบบผิด ทำตัวเป็นลัทธิประหลาด ฟอกเงิน แต่ก็ไม่มีการออกมาโต้แย้ง หรือชี้แจงใด ๆ ทั้งสิ้น เมื่อทีมข่าวเข้าไปในสถานปฏิบัติธรรมแห่งนี้ พบว่ามีประติมากรรม แบบอนุตตรธรรม ด้านหน้ามีรูปปั้นพระแม่กวมอิม ด้านในเป็นรูปปั้นเทพเจ้ากวนอู ฮกล่กซิ่ว เทพเจ้าแปดเซียน และตู้รับบริจาคค่าใช้จ่ายในสถานธรรมคล้ายกับวัดอื่น ๆ

นายไชยยศ ตันวุฒิบัณฑิต ผู้ดูแลสถานปฏิบัติธรรมบอกว่า สำหรับสถานที่แห่งนี้ มีความเป็นมายาวนาน เริ่มตั้งแต่มีลูกศิษย์คนหนึ่งนำที่ดินมาบริจาคให้ เนื่องจากมีความเลื่อมใส ศรัทธาในพุทธศาสนา ยิ่งไปกว่านั้นได้รวมตัวกับลูกศิษย์คนอื่น ๆ ที่มีความคิด ความชอบเหมือนกัน ก่อตั้งชมรมธรรมบุรีรัมย์ และเริ่มขยับขยาย ก่อสร้างสถานปฏิบัติธรรมนี้ขึ้นมา เพื่อทำเป็นแหล่งเรียนรู้ และศึกษาธรรม คำสอนของพระพุทธองค์ที่ใหญ่ที่สุด ขอยืนยันว่าศูนย์ฯแห่งนี้ไม่ได้เกี่ยวข้องกับเรื่องเงิน จำนวน 400,000 บาท ที่จังหวัดอุบลราชธานี และจังหวัดศรีสะเกษ อย่างแน่นอน ถึงเป็นอนุตตรธรรมเหมือนกัน แต่คนละสายธรรมอย่างแน่นอน

ส่วนกรณีที่มีผู้ไปร้องเรียนว่าปฏิบัติธรรมในสถานที่นี้มา 10 ปี แต่เพิ่งออกมาบอกว่าสถานที่แห่งนี้มัวเมา และปลูกฝังในสิ่งที่ผิด เชื่อว่าเขาคงจะมีปัญหาส่วนตัวและครอบครัว เพราะไม่ได้สิ่งที่ต้องการ ประกอบกับมีกระแสข่าวไม่ดีของจังหวัดอื่น ๆ ที่เกี่ยวกับการฟอกเงิน อาจจะนำเรื่องราวมารวมกัน แล้วออกมาร้องเรียน

ยืนยันว่าสถานปฏิบัติธรรมไม่ได้เรียกรับเงินรายเดือน แต่เป็นการเรี่ยไรทำบุญตามศรัทธา ผู้ที่เข้าร่วมรับฟังธรรม ก็จะช่วยบริจาค 100 บาท เป็นค่าน้ำ ค่าไฟ และค่าพิมพ์หนังสือธรรมะ ส่วนพิธีกรรมถอดถอนรายชื่อออกจากบัญชีนรก แท้จริงแล้วเป็นเพียงกุศโลบาย เพราะต้องการจะสอนเรื่องกฎแห่งกรรม บาปบุญคุณโทษ ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่วเท่านั้น

ด้านนางพยวง ประพินอักษร อายุ 77 ปี ลูกศิษย์บอกว่า ก่อนหน้านี้ครอบครัวร้อนเหมือนไฟ เลยต้องการที่พึ่ง อยู่แล้วใจสงบร่วมเย็น จนได้มาเจอสถานปฏิบัติธรรมแห่งนี้ ยอมรับว่าวินาทีแรกที่เข้ามา รู้สึกถึงความสงบและสบายใจ จึงตัดสินใจถวายที่ดินให้ เพื่อก่อตั้งเป็นสถานปฏิบัติธรรมที่เผยแพร่ความรู้ให้บุคคลรุ่นหลัง หลังจากนั้นก็พยายามชักชวนสามีและครอบครัวมาปฏิบัติธรรม ซึ่งตอนนั้นสามีเป็นคนสำมะเลเทเมา หลังจากศึกษาธรรม ก็เปลี่ยนเป็นคนละคน ทุกวันนี้ ไม่แตะสิ่งอบายมุขเลย พร้อมทั้งนำคำสอนไปปรับใช้ในชีวิตประจำวัน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง