เช้านี้ที่หมอชิต - ที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา หญิงอายุ 19 ปี แจ้งความตำรวจว่าถูกมิจฉาชีพใช้กลอุบาย นำบัตรประจำตัวประชาชนไปเปิดบัญชีธนาคาร อ้างเพื่อรับเงินจำนวน 2,000 บาท เป็นของขวัญปีใหม่จากรัฐบาล กระทั่งได้รับการติดต่อจากตำรวจ ระบุบัญชีธนาคารนี้ ถูกใช้เป็นบัญชีม้ารับโอนเงินจากผู้เสียหาย เกือบ 400,000 บาท
นักศึกษาหญิง อายุ 19 ปี นำหลักฐานสำคัญต่าง ๆ พร้อมรายการเดินบัญชีธนาคาร ไปยื่นต่อตำรวจภูธรพระนครศรีอยุธยา เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ ว่าเธอไม่ได้มีส่วนรู้เห็น หรือเกี่ยวข้องกับมิจฉาชีพแก๊งหลอกโอนเงิน หลังได้รับการติดต่อจากตำรวจในพื้นที่จังหวัดหนองคาย และจังหวัดระยอง ว่าเธอคือผู้ต้องหา เปิดบัญชีม้า รับโอนเงินจากกลุ่มผู้เสียหายหลายราย
หญิงอายุ 19 ปี เล่าว่า ช่วงเที่ยงวันที่ 15 ธันวาคมที่ผ่านมา เธอได้ไปรับจ้างทำงานที่ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง แลกค่าจ้าง 600 บาท ระหว่างที่นั่งรอเข้างาน มีผู้หญิงคนหนึ่ง เข้ามาตีสนิท บอกเปิดร้านค้าที่วัด สนใจไปขายของด้วยไหม จากนั้นก็ชักชวนเธอพูดคุยหลายเรื่อง โดยฝ่ายมิจฉาชีพ ถามเธอว่ารู้ไหม ตอนนี้รัฐบาลแจงเงิน 2,000 บาท ผ่านแอปพลิเคชัน "ถุงเงิน"
ทีแรกหญิงอายุ 19 ปี ก็ไม่ได้สนใจอะไร แต่อีกฝ่ายยังคงพูดคะยั้นคะยอ ว่าถ้าสนใจจะกรอกรายละเอียดต่าง ๆ ให้ ใช้เวลาไม่นาน นี่ฉันก็ทำให้ลูกสาว จนได้เงินมาซื้อของแล้ว
เพราะอยากนำเงินก้อนนี้ไปช่วยเหลือพ่อและแม่ หญิงอายุ 19 ปี จึงหลงเชื่อมอบบัตรประจำตัวประชาชนให้หญิงแปลกหน้า นำไปกรอกรายละเอียด ผ่านทางโทรศัพท์มือถือของอีกฝ่าย
จังหวะหนึ่ง ก็บอกให้เธอสแกนใบหน้า แล้วก็บอกว่าต้องยืนยันตัวตนที่ตู้ ATM ด้วยเห็นว่าตู้ ATM อยู่ใกล้ ๆ เธอจึงอนุญาต แต่ก็แอบถ่ายรูปภาพของอีกฝ่ายเก็บไว้ สักพัก หญิงแปลกหน้าก็นำบัตรประจำตัวประชาชนมาคืนให้ ก็พอดีกับที่เธอต้องไปเข้างาน
กระทั่ง 3 ชั่วโมงต่อมา ได้รับการติดต่อจากตำรวจ ว่าบัญชีธนาคารในชื่อของหญิงอายุ 19 ปี เกี่ยวข้องกับการฉ้อโกงเงิน 150,000 บาท ทำให้รู้ว่าถูกหลอก ตอนนี้เครียดมาก ร้องไห้ทุกวัน
ฝ่ายแม่ของหญิงอายุ 19 ปี ก็หลั่งน้ำตา ยืนยันกับทีมข่าว ลูกสาวไม่เคยรู้มาก่อน ว่าถูกมิจฉาชีพนำบัตรประชาชนไปใช้เปิดบัญชีม้า ตอนนี้มีผู้เสียหายติดต่อมาแล้ว 3 ราย รวมเป็นยอดเงินเกือบ 400,000 บาท นับแต่เกิดเรื่อง ลูกได้แต่โทษตัวเอง ว่าทำให้พ่อแม่เดือดร้อน กลัวว่าลูกจะคิดสั้นฆ่าตัวตาย
เบื้องต้น ตำรวจรับลงบันทึกประจำวันไว้ โดยจะขยายผลตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดของห้างสรรพสินค้า เพื่อติดตามตัวหญิงมิจฉาชีพมาสอบสวนข้อเท็จจริงต่อไป