วันนี้ (21 ธ.ค.65) หลังจากพระที่วัดสตูลสันตยาราม (วัดป่าช้าไทย) ได้แจ้งขอความช่วยเหลือไปยังเทศบาลเมืองสตูล และเกษตร จ.สตูล ว่ามีหนอนบุ้งนับล้านตัวบุกวัด พระต่างหวาดผวาเนื่องจากคนที่แพ้เมื่อถูกจะมีอาการคัน ปวดแสบปวดร้อน นอกจากจะเกาะตามกุฏิแล้ว ยังพบตามพื้น เก้าอี้ ศาลา และทั่วบริเวณ บางครั้งปลิวไปเกาะตามศีรษะ เสื้อผ้าต่างๆ สร้างความรำคาญแก่ญาติโยมที่มาวัด
ต่อมาทางเกษตรกร จ.สตูลและเทศบาลเมืองสตูล ได้เดินทางมาตรวจสอบพบว่าหนอนดังกล่าวเป็นหนอนบุ้ง ซึ่งอาศัยอยู่บริเวณต้นไม้และกัดกินใบไม้เป็นอาหาร ซึ่งเบื้องต้นทดลองใช้สารเคมีฉีดและดูสภาพว่าเป็นอย่างไร ซึ่งหนอนจะค่อยๆตาย ขณะที่เทศบาลเมืองสตูลได้นำยาพ่นฉีดยุงมาฉีดเพื่อกำจัดในเบื้องต้น เนื่องจากเกรงว่าหนอนบุ้งดังกล่าวจะกระจายไปทั่ววัดโดยเฉพาะบริเวณ ร.ร.ที่อยู่ภายในวัด หวั่นจะเป็นอันตรายกับเด็กนักเรียน
พระธนภูมิ ทิศษา พระลูกวัดที่อาศัยอยู่ในกุฎิที่ถูกหนอนบุกว่า หนอนดังกล่าวขึ้นมาอยู่ตามกุฎิมาประมาณ 4 วันแล้ว พระบางรูปถูกตัวแล้วคันไม่มีปรากฏการณ์แบบนี้มาก่อน น่าจะสภาพแวดล้อมเป็นใจ อากาศมีส่วน ทำให้หนอนขยายพันธุ์เร็ว มันกัดกินใบไม้จนร่วงหมดแล้วไต่ไปเกาะตามกุฎิที่ตนอาศัยอยู่ ซึ่งพระก็ได้แค่กวาดออกไปเท่านั้น ไม่สามารถไปฆ่ามันได้
ด้านนายชาญณรงค์ วิรุณสาร เกษตรกร จ.สตูล กล่าววา เขาเรียกว่าหนอนบุ้ง ซึ่งมีหลายชนิด นี่เป็นชนิดหนึ่ง ในปีนี้สภาพแวดล้อมสภาพอากาศ ความชื้นเหมาะสมอาหารสมบูรณ์ ทำให้ขยายพันธุ์ได้เร็วเป็นพิเศษ ส่วนของตัวหนอนลงจากยอดไม้เพื่อรอเวลาเข้าดักแด้ ใช้เวลา3-4 วันจะกลายเป็นผีเสื้อ แต่ช่วงนี้เรารอไม่ได้ หากไม่เยอะก็ใช้ไฟหรือกวาดได้ แต่นี้มันเยอะมากจริงๆก็จะหาวิธีการที่ดีที่สุด ซึ่งคงต้องใช้สารเคมีที่เลือกเป็นสารเคมีที่ได้ผลและดูดซึมน้อยที่สุด เพราะสารเคมีหากฆ่าหนอนได้ก็เป็นอันตรายกับคนเช่นกัน หนอนชนิดนี้มาได้หลายทาง หนอนมันจะคลานลงมาและปล่อยใยห้อยตัวลงพื้น นอกจากสร้างความรำคาญแล้วยังเป็นพิษ เกิดการระคายเคืองกับพวกที่แพ้ จะเกิดอาการคันและอักเสบได้
