ห้องข่าวภาคเที่ยง - มรสุมในทะเลอ่าวไทย ทำให้เรือสินค้าสัญชาติอินโดนีเซีย ถูกคลื่นซัดลอยมาเกยตื้น ชายหาดจังหวัดปัตตานี เจ้าหน้าที่หวั่นน้ำมันหรือของเหลวภายในเรือจะรั่วไหล เร่งประสานให้เจ้าของเรือมาลากเรือออกไป เกรงกระทบพื้นที่ชายหาด
นายโอฬาร บิลสัน นายอำเภอยะหริ่ง ลงพื้นที่ชายหาดตะโละกาโปร์ ตำบลตะโละกาโปร์ อำเภอยะหริ่ง จังหวัดปัตตานี เพื่อตรวจสอบสภาพเรือสินค้าสัญชาติอินโดนีเซีย ซึ่งเป็นเรือสินค้าขนาดใหญ่ ที่ถูกคลื่นลมแรงที่ซัดเข้าทะเลอ่าวไทย ในช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา จนเรือเข้ามาเกยตื้น ห่างชายหาดเพียง 50-100 เมตร
นายอำเภอยะหริ่ง ระบุว่า ก่อนหน้านี้ได้ตรวจสอบพบว่า ระหว่างเรือเกยตื้น มีลูกเรือ 8 คน เป็นคนไทยทั้งหมด โดยเรือลำดังกล่าว ได้ออกมาจากจังหวัดสมุทรสาคร เพื่อเดินทางไปยังเมืองเมรัก ประเทศอินโดนีเซีย แต่ระหว่างเดินทางกลับเจอมรสุม ซึ่งเป็นช่วงที่เรือหลวงสุโขทัย ของกองทัพเรืออับปางเพราะสภาพอากาศ ทำให้ลูกเรือต้องสละเรือ และนั่งเรือยางออกมาได้อย่างปลอดภัย
พบว่า เรือเกยตื้นอยู่ในสภาพเอียง 45 องศา จึงเกรงว่า น้ำมันหรือของเหลวภายในเรือจะไหลออกมา หากถูกคลื่นกระแทกกับชายหาด จึงแจ้งกรมเจ้าท่า ให้เร่งประสานเจ้าของเรือ เข้ามาลากเรือออกไปจากพื้นที่ เพื่อความปลอดภัยของชาวบ้าน
ล่าสุด ผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาค สาขาปัตตานี ได้ประสานให้บริษัทเรือ นำธงไปติดไว้บนเรือ และให้ติดไฟส่องสว่างในเวลากลางคืน เพื่อป้องกันเรือประมงที่สัญจรในเวลากลางคืน เพื่อความปลอดภัย ในระหว่างรอการเคลื่อนย้าย โดยจะต้องใช้เรือลากจูง ออกไปจากจุดที่เกยตื้น ภายในระยะเวลา 30 วัน
ขณะที่ ริมชายหาดยังคงมีนักท่องเที่ยวเข้ามาถ่ายรูป ลงเล่นน้ำไม่ต่ำกว่า 1,000 คน นอกจากนี้พื้นที่รอบ ๆ ก็มีพ่อค้าแม่ค้านำสินค้ามาขาย สร้างรายได้ในช่วงที่มีนักท่องเที่ยวเข้ามาเที่ยวจำนวนมาก
