รวบหญิงเพี้ยนขโมยรถ จยย. นักเรียนจากโรงเรียน ไปซุกไว้ที่บ้าน ลงอักขระป้องกันรถหาย อ้างพระอาทิตย์สั่ง

รวบหญิงเพี้ยนขโมยรถ จยย. นักเรียนจากโรงเรียน ไปซุกไว้ที่บ้าน ลงอักขระป้องกันรถหาย อ้างพระอาทิตย์สั่ง

View icon 176
วันที่ 22 ธ.ค. 2565 | 14.45 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
วันนี้ (22 ธ.ค. 65) เมื่อเวลา 11.00 น. ที่ผ่านมา พ.ต.ต.ธนนท์ ศรีกงพาน สว.สส.สภ.เมืองอุดรธานี พร้อมตำรวจชุดสืบสวนจับกุมหญิงอายุ 49 ปี ที่ทาวน์เฮาส์แห่งหนึ่ง ต.หมากแข้ง อ.เมืองอุดรธานี จ.อุดรธานี พร้อมด้วยของกลางรถจักรยายนตร์ 2 คัน คันแรกสีดำ-เหลือง ทะเบียน 2 กง 6704 อุดรธานี และอีกคัน สีขาว ทะเบียน 4 กค 885 กรุงเทพมหานคร จอดไว้ภายในบ้าน จึงควบคุมตัวมาสอบปากคำ ที่ สภ.เมืองอุดรธานี

การจับกุมดังกล่าว สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 20 ธ.ค. 65 ที่ผ่านมา นายอาทิตย์ พลหาญ อายุ 32 ปี ได้เข้าแจ้งความกับ ร.ต.อ.หญิง จุฑามาศ เกื้อสกุล รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองอุดรธานี ว่า เวลาประมาณ 07.00 น. ลูกชายได้ขับขี่รถจักรยานยนต์สีดำ-เหลือง ทะเบียน 2 กง 6704 อุดรธานี จากบ้าน ต.สามพร้าว มาโรงเรียนเทศบาล 3 บ้านเหล่า เขตเทศบาลนครอุดรธานี มาถึงโรงเรียนเวลาประมาณ 08.00 น.จอดรถจักรยานยนต์ดังกล่าวไว้ที่ลานจอดรถของโรงเรียน แล้วไปเรียนตามปกติ จากนั้นเวลาประมาณ 15.30 น.เลิกเรียนจะกลับบ้านพบว่ารถจักรยานยนต์ได้หายไป

ต่อมาได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดของโรงเรียน พบว่าเวลาประมาณ 15.00 น.ได้มีคนร้ายสวมเสื้อแขนยาวสีดำ กางเกงขาสั้น เดินเข้ามาเข็นรถจักรยานยนต์ไป หลังจากรับแจ้งความตำรวจชุดสืบสวนจึงได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดตามเส้นทางพร้อมหาเบาะแส จนทราบว่าคนร้ายอยู่ใกล้ที่เกิดเหตุประมาณ 50 เมตร จึงนำกำลังไปตรวจสอบจนพบรถจักรยานยนต์คันดังกล่าว และยังได้ตรวจยึดเพิ่มอีก 1 คัน

จากการสอบสวนผู้ต้องหา ให้การแบบวกวนว่า ตนได้ประกอบรถคันเล็กก่อน และเอารถไปไว้ที่บ้าน แล้วรถก็เหาะขึ้นบนท้องฟ้า แล้วดำดินไปโผล่อยู่ที่โรงเรียนเทศบาล 3 จากนั้นพระอาทิตย์ก็เลยให้ตนไปเอารถมาเก็บ รถจะมีโคลน ตนจึงไปเอามาคืน ซึ่งรถที่ประกอบแปลงร่างจากรถสีขาวเป็นสีเขียว ตนจึงได้ลงชื่อและอักขระเอาไว้ที่รถ เพื่อไม่ให้รถหายไปอีก โดยที่ตนเอารถมาเก็บ เพราะกลัวเด็กจะขับรถเร็วกลัวจะเกิดอันตราย เลยไปเอามาเก็บไว้

ด้าน พ.ต.ต.ธนนท์ เปิดเผยว่า เบื้องต้นจะได้ติดต่อญาติผู้ต้องหาเพื่อมาสอบถามรายละเอียดเรื่องอาการทางจิต และการรักษา ซึ่งก็จะได้ติดต่อผู้เสียหายมาตรวจสอบรถจักรยานยนต์  พร้อมกับให้พูดคุยกับญาติของผู้ต้องหาก่อน หลังจากนั้นจะได้ดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป