เช้านี้ที่หมอชิต - ตามกันที่คดีมหกาพย์การเสียชีวิตของแตงโม นิดา เมื่อวานศาลจังหวัดนนทบุรี นัดตรวจพยานในดคี ซึ่งจำเลย 6 คน เดินทางมาตามนัด เช่นเดียวกับคุณแม่ที่เดินทางมาตรวจพยานด้วย เปิดใจว่าให้อภัยปอกับโรเบิร์ต เพราะเยียวยาอย่างดี ขณะที่อัยการจังหวัดฯ ยืนยันจะเดินฟ้องในคดีอาญาต่อ เพราะมั่นใจในหลักฐาน
เวลา 09.00 น. เมื่อวานนี้ ที่ศาลจังหวัดนนทบุรี นัดตรวจพยานในคดีการเสียชีวิตของอดีตดาราสาว นางสาวภัทรธิดา พัชรวีระพงษ์ หรือ แตงโม นิดา โดยจำเลย 6 คน ประกอบด้วย นายตนุภัทร เลิศทวีวิทย์ หรือปอ, นายไพบูลย์ ตรีกาญจนานันท์ หรือโรเบิร์ต, นายนิทัศน์ กีรติสุทธิสาธร หรือจ๊อบ, นายวิศาพัช มโนมัยรัตน์ หรือแซน และนางสาวอิจศรินทร์ จุฑาสุขสวัสดิ์ หรือกระติก จำเลย 5 คน ที่อยู่บนเรือ รวมถึง นายเอ็ม ธรรมธีรศรี กุนซือ ทยอยเดินทางมาที่ศาล พร้อมทนายความส่วนตัว ก่อนจะรีบเดินขึ้นไปบนชั้นศาลทันที
ขณะที่ นางภนิดา ศิระยุทธโยธิน คุณแม่ของแตงโม ได้เดินทางมาร่วมตรวจพยานพร้อมกับทนายความ ให้สัมภาษณ์ถึงความรู้สึกว่าจนถึงตอนนี้ไม่ได้ติดใจจำเลยที่ 1 และ 2 คือ ปอ กับ โรเบิร์ต แล้ว เพราะทั้ง 2 คนดูแลเรื่องของการเยียวยาอย่างเต็มที่ จนคุณแม่พอใจ ส่วนจำเลยที่เหลือยังไม่ได้รับการติดต่อ หรือพูดคุยใด ๆ จึงทำให้คุณแม่ยังติดใจอยู่
แม้ว่าทางคุณแม่จะไม่ติดใจจำเลย ไม่ติดใจสาเหตุการเสียชีวิตของลูกสาว รวมถึงได้ถอนฟ้องจำเลย ในคดีแพ่งแล้วก็ตาม แต่ในส่วนของคดีอาญา ทางอัยการจังหวัดนนทบุรี ซึ่งเป็นโจทย์ยื่นฟ้องโดยตรงกับศาล ยังคงยืนยันที่จะเดินหน้าดำเนินคดีเอาผิดกับฝ่ายจำเลยทั้ง 6 คนต่อไป โดยมั่นใจในพยานหลักฐานที่มีอยู่
ขณะที่ กระติก และแซน จำเลยในคดี ได้เปิดใจหลังเสร็จสิ้นการนัดตรวจพยานว่า แม้หลักฐานจะมีเป็นจำนวนมาก แต่ยังคงมั่นใจ เพราะเอาความจริงมาต่อสู้เป็นหลัก นอกจากนี้ยังขอตำหนิข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ที่ให้สัมภาษณ์ถึงความมั่นใจในคดีคล้ายเป็นการข่มขู่ เพราะไม่ควรเอาเรื่องในคดีมาพูดต่อสาธารณะ ซึ่งอาจจะทำให้สังคมเกิดความสงสัยในกระบวนการยุติธรรม
ส่วนจำเลยทั้ง ปอ โรเบิร์ต จ๊อบ ได้เดินทางออกจากศาลขึ้นรถกลับทันที หลังศาลใช้เวลาตรวจพยานนานกว่า 5 ชั่วโมง เนื่องจากฝ่ายโจทย์มีพยานทั้งสิ้น 139 ปาก ฝ่ายจำเลยมีประมาณ 40 ปาก โดยได้เตรียมนัดสืบพยานนัดแรก ในวันที่ 2 มีนาคม 2566 และนัดสืบพยานทั้งหมดไปจนถึงวันที่ 16 สิงหาคม 2567 รวมทั้งสิ้น 48 นัด จึงจะจบสิ้นการนัดสืบพยานคดีนี้ และศาลจะพิพากษาตัดสินคดีในชั้นต้นต่อไป
