สนามข่าวเสาร์-อาทิตย์ - ช่วงท้ายปีแบบนี้ของทุกปี สื่อมวลชนจะมีการตั้งฉายาตำรวจ เพื่อสะท้อนภาพลักษณ์ ผลงาน หรือเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในรอบปีที่ผ่านมา เรามาดูกันว่าปีนี้จะมีตำรวจนายใดได้รับฉายาใดกันบ้าง
เริ่มกันที่คนแรก พลตำรวจเอก ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ หรือ ผบ.ตร. ปีนี้ได้ฉายา "ผบ.ปีชง" เพราะตั้งแต่ที่มารับตำแหน่งเป็น ผบ.ตร. ต้องเผชิญกับสารพัดปัญหา มรสุมข่าวไม่ดีในวงการสีกากี ต้องค่อย ๆ ถอดบทเรียนแก้ไขไปที่ละปัญหา จนเป็นที่มาของฉายานี้
พลตำรวจเอก วิสนุ ปราสาททองโอสถ จเรตำรวจแห่งชาติ ได้ฉายา "หิน คลีนนิง" เพราะตำแหน่ง "จเรตำรวจแห่งชาติ" ก็เปรียบเสมือนพ่อบ้านที่คอยเก็บกวาดขยะที่ซุกซ่อนอยู่ใต้พรม
พลตำรวจเอก สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ได้ฉายา "โจ๊ก...เต็มคาราเบล" ด้วยผลงานการทำคดีต่าง ๆ มากมาย ทั้งค้ามนุษย์ ปราบปรามน้ำมันเถื่อน
พลตำรวจโท ภาณุรัตน์ หลักบุญ ผู้ช่วย ผบ.ตร. ได้ฉายา "แมวหลวง สตช." จากความไว้วางใจ ให้ดูแลงานทุกด้าน ทั้งสืบสวน สอบสวน ปราบปราม งานมั่นคง กิจการพิเศษ
พลตำรวจโท ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรง ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 ได้ฉายา "โอ๋ เดอะสตาร์" จากผลการทำงานเชิงรุกจับกุมทั้งขบวนการค้ายาเสพติด, กลุ่มผู้ค้าอาวุธ และบุคคลตามหมายจับ จนมีผลงานโดดเด่น
นอกจากนี้ สมาคมผู้สื่อข่าวและช่างภาพอาชญากรรมแห่งประเทศไทย ยังได้ตั้งฉายาให้กับตำรวจอีก 6 นาย บางนายเป็นการตั้งฉายาที่มาจากเหตุการณ์ข่าวที่เกิดขึ้น เช่น พลตำรวจตรี กิตติ์ธเนศ ธนนันท์ทวีสิน อดีตผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี ได้รับฉายา "นายพลรูบิก" ซึ่งมีที่มาจากการตกเป็นผู้ต้องสงสัย ช่วยเหลือสับเปลี่ยนตัวผู้ต้องหา คดีกราดยิงในพูลวิลลา พื้นที่จังหวัดชลบุรี
พลตำรวจตรี วันไชย เอกพรพิชญ์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธร ภาค 8 ได้รับฉายา "นายพลดับเครื่องชน" จากการตัดสินใจยื่นฟ้องศาลปกครอง ขอใช้แรงเฮือกสุดท้ายสู้กับความไม่เป็นธรรม ที่มีการแต่งตั้งโยกย้ายคนอื่นข้ามหัว ทั้ง ๆ ที่อยู่ตำแหน่งอาวุโสอันดับ 1
ส่วนผลงานเด่นเป็นที่เข้าตา ได้แก่ พลตำรวจตรี ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล ได้ฉายา "จ๋อ ขอดเกล็ดมังกร" จากการเป็นหัวหน้าชุดเข้าตรวจค้นผับจินหลิง จนเกิดการขยายผล นายทุนจีนสีเทา
พลตำรวจตรี พันธนะ นุชนารถ รองผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ได้ฉายา "มือปราบคอลเซ็นเตอร์" เพราะเป็นหัวหน้าชุดปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ที่นำกำลังเข้าจับกุมขบวนการนี้ถึงต่างแดนถึง 7 ครั้ง จับผู้ต้องหาได้มากถึง 164 ราย
พลตำรวจตรี อาชยน ไกรทอง โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้ฉายา "องครักษ์พิทักษ์ สตช." จากการทำหน้าที่กระบอกเสียงให้กับสำนักงานตำรวจแห่งชาติอย่างแข็งขัน
และคนสุดท้าย พลตำรวจตรี จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผู้บังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ หรือ บก.ปปป. ฉายา "มือปราบคอร์รัปชัน" จากผลการปราบปรามคอร์รัปชัน ฮั้วประมูลต่าง ๆ รวมถึงคดีเงินทอนวัดที่เป็นข่าวโด่งดัง
