รวบอธิบดีกรมอุทยานฯ เรียกรับเงินลูกน้อง พบเงินสดในห้องเกือบ 5 ล้าน

รวบอธิบดีกรมอุทยานฯ เรียกรับเงินลูกน้อง พบเงินสดในห้องเกือบ 5 ล้าน

View icon 1.2K
วันที่ 27 ธ.ค. 2565 | 16.29 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
รวบอธิบดีกรมอุทยานฯ เรียกรับเงินลูกน้อง พบเงินสดในห้องเกือบ 5 ล้าน รายชื่อครบ ขรก.ผู้น้อยทนไม่ไหวร้องตรวจสอบ เจ้าตัวยังให้การภาคเสธ

อุทยานสะเทือน อธิบดีโดนจับเรียกรับเงิน วันนี้(27 ธ.ค.2565) เมื่อเวลา 14.05 น. นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. ร่วมกับ พล.ต.ต.วิวัฒน์ ชัยสังฆะ รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง แถลงผลการจับกุม นายรัชฎา สุริยกุล ณ อยุธยา อายุ 60 ปี อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช เรียกรับเงินแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการในสังกัดโดยพบเงินสดภายในห้องทำงานร่วมเกือบ 5 ล้านบาท

สืบเนื่องจาก ช่วงเดือนตุลาคม 2564 มีผู้ร้องเรียนให้ช่วยตรวจสอบพฤติกรรมของนายรัชฎา ที่เรียกรับเงินจากเจ้าหน้าที่ในสังกัด โดยเรียกรับจากหัวหน้าหน่วย เพื่อวิ่งเต้นให้รักษาตำแหน่งหัวหน้าเอาไว้ หากไม่นำเงินมาให้ จะถูกย้ายออกจากตำแหน่ง ซึ่งการวิ่งเต้นตำแหน่งนั้น ต้องนำเงินมาให้รายละ 500,000 - 1,000,000 บาท และยังต้องนำเงินสดมาให้เป็นรายเดือนด้วย

นายนิวัติไชย เปิดเผยว่า วันนี้เป็นการนัดผู้เสียหายให้นำเงินเข้าไปมองให้แก่อธิบดี เมื่อถึงเวลานัดหมายส่งมอบเงินกันเรียบร้อย จึงเข้าดำเนินการแจ้งตัวเป็นเจ้าหน้าที่ขอตรวจค้น พบเงินสด 98,000 บาท วางที่โต๊ะทำงาน ขยายผลพบเงินในตู้เซฟและส่วนอื่น ๆ ในห้องรวมเป็นเงินสดเกือบ 5 ล้านบาท แต่จากเจ้าตัวให้การปฏิเสธ อ้างว่าเป็นการล่อซื้อ ซึ่งตอนนี้อยู่ระหว่างการสอบปากคำรวมถึงยื่นเรื่องขอประกันตัวในชั้นสอบสวน โดยคดีความครั้งนี้ ปกติหน่วยงานภาครัฐจะมีการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการ แต่วิธีการของอธิบดีรายนี้ คือใครอยากอยู่ที่เดิม ก็จ่ายเงินให้แก่อธิบดีโดยจะคิดเป็นเปอร์เซ็นต์ แล้วแต่ว่าสำนักไหน หน่วยงานใด ได้เงินเท่าไหร่ คาดว่ามีประมาณ 15 หน่วย ซึ่งบัญชีที่ส่งมา จะจ่ายเงินให้เป็นรายเดือน ซึ่งอธิบดีคนนี้ดำรงตำแหน่งมาแล้วประมาณ 1 ปี นอกจากนี้ยังเจอบัญชีรายชื่อภายในห้องอีกด้วย ซึ่งเงินเหล่านี้จะถูกส่งไปถึงไหน บุคคลใดต่อหรือไม่ จะต้องขยายผลต่อไป ส่วนการร้องเรียนเรื่องแต่งตั้งโยกย้ายของหน่วยงานอื่นก็มีรายงานเช่นกัน แต่บางครั้งการร้องเรียนดังกล่าวเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นมานานแล้ว แล้วมาร้องเรียนภายหลัง ซึ่งแตกต่างจากกรณีนี้

ด้าน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผู้บังคับการตำรวจปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) กล่าวว่า คดีนี้ มีผู้เสียหายมาร้องเรียน และให้ข้อมูลเพื่อดำเนินคดีกับอธิบดี จึงร่วมกันสืบสวนหาข้อมูล เบื้องต้นเชื่อว่าพยานหลักฐานที่มี เพียงพอที่จะรับคำร้องทุกข์เอาไว้ จากนั้นจึงสืบสวนเก็บข้อมูลและทราบถึงวิธีการที่ทั้งผู้เสียหายและผู้ถูกจับกุมดำเนินการ จนพบว่ามีการเรียกรับเงินกันจริง จึงเข้าจับกุมขณะส่งมอบเงินทำให้มีพยานหลักฐานค่อนข้างชัดเจน นอกจากนี้ เมื่อขยายผลพบพยานหลักฐานอื่น ๆ ที่น่าเชื่อได้ว่าได้มาจากการกระทำความผิดรวมเป็นทรัพย์สินประมาณ 5 ล้าน ถือเป็นยอดเงินที่สูง ซึ่งการสอบปากคำนายรัชฎา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติฯ ยังให้การภาคเสธเกี่ยวกับเงิน 98,000 บาทที่ได้รับมา อ้างว่ารับมาจริง แต่ไม่รู้ว่าคือเงินอะไร  แต่อีกส่วนที่ตรวจค้นเจอผู้ต้องหายังไม่ให้ข้อมูลว่าได้เงินมาจากที่ไหน

เบื้องต้น ตำรวจดำเนินคดีนายรัชฎา ในความผิดฐาน "เป็นเจ้าพนักงาน สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งรัฐ สมาชิกสภาจังหวัด เรียก รับ หรือยอมจะรับทรัพย์สิน เพื่อประโยชน์อื่นใดโดยมิชอบฯ ตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตฯ" มาตรา 149 และ "ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต" ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157

ข่าวที่เกี่ยวข้อง