บุกจับ อธิบดีกรมอุทยานฯ เรียกรับผลประโยชน์

View icon 101
วันที่ 28 ธ.ค. 2565 | 07.08 น.
สนามข่าว 7 สี
แชร์
สนามข่าว 7 สี - เป็นการจับกุมข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ส่งท้ายปี หลังเจ้าหน้าที่วางแผนนำเงินสด 98,000 บาท ไปมอบให้กับอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติฯ พร้อมกับอัดบันทึกคลิปเสียงการสนทนาไว้ ก่อนจะนำกำลังเข้าจับกุมตัวได้พร้อมของกลาง

เริ่มจากช่วงเช้าวานนี้ ขณะที่ นายรัชฎา สุริยกุล ณ อยุธยา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กำลังประชุมร่วมกับผู้บริหารระดับสูงในสังกัด จู่ ๆ ตำรวจกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ หรือ บก.ปปป. พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่จาก ป.ป.ท. และ ป.ป.ช. ก็เข้าไปเชิญตัว นายรัชฎา ไปพูดคุยในห้องทำงานส่วนตัว ท่ามกลางความงุนงงของผู้เข้าร่วมการประชุม ก่อนจะเริ่มทำการตรวจค้นภายในห้องทำงาน พบของกลางเงินสด 4.9 ล้านบาทในตู้เซฟ และพบซองเงินสด 98,000 บาท วางอยู่บนโต๊ะทำงาน จึงยึดไว้เป็นของกลาง ก่อนจะพาตัวไปสอบสวนต่อที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง

ขณะที่ นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. พร้อมผู้เกี่ยวข้อง ร่วมกันแถลงผลการจับกุมดังกล่าว โดยบอกว่าก่อนหน้านี้มีข้าราชการในสังกัดมาร้องเรียนว่า นายรัชฎา เรียกรับเงินสินบนรายเดือน เพื่อแลกกับการดำรงตำแหน่งเดิม หรือโยกย้ายไปในตำแหน่งที่ดีกว่า หากไม่ปฏิบัติตามจะถูกโยกย้ายโดยไม่เป็นธรรม จึงร่วมกับตำรวจทำการสืบสวน และวางแผนให้ผู้เสียหายนำเงินสด 98,000 บาท ไปมอบให้ โดยมีหลักฐานคลิปบันทึกเสียงการสนทนา ก่อนจะนำกำลังเข้าจับกุมดำเนินคดี

ด้าน พลตำรวจตรี จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผู้บังคับการ ปปป. เปิดเผยว่า ผู้ต้องหาให้การภาคเสธ ยอมรับเพียงว่ารับซองมาจริง แต่ไม่ทราบว่าภายในมีเงินสด ส่วนเงินในตู้เซฟยังไม่ได้ชี้แจงที่มาของเงิน ซึ่งจะขยายผลตรวจสอบเรื่องนี้ต่อ ซึ่งเบื้องต้นพฤติการณ์ดังกล่าวเข้าข่ายเป็นความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานเรียกรับทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดโดยมิชอบ

สำหรับพฤติการณ์ที่มีผู้ร้องทุกข์กับเจ้าหน้าที่ ระบุว่า นายรัชฎา มีพฤติกรรมเรียกรับเงิน โดยจะต้องนำเงินมามอบให้ที่สำนักงานของนายรัชฎา ตั้งแต่ 200,000 บาท ไปจนถึงสูงสุด 500,000 บาทต่อปี และให้นำมาแบ่งจ่ายเป็นเงินสดเป็นรายเดือน นอกจากนี้ยังพบว่ามีพฤติกรรมเรียกเก็บเงินจากหัวหน้าหน่วยงานในภาคสนาม โดยจะคิดตามอัตราส่วนจากหน่วยงานที่ได้รับจัดสรรงบประมาณ เช่น อุทยานแห่งชาติ, เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า จะเรียกเก็บเงิน 18.5% จากงบประมาณดำเนินงาน และค่าใช้สอย หรือหากเป็นหน่วยงานเล็กลงไป เช่น หน่วยป้องกันไฟป่า จะเรียกเก็บ 3% ลักษณะคล้ายกับคดีเงินทอนวัด

ล่าสุดเมื่อช่วง 22.00 น.ที่ผ่านมา หลังเสร็จสิ้นขั้นตอนสอบปากคำแล้ว นายรัชฎา ได้ยื่นขอประกันตัว โดยวางเงินสด 400,000 บาท เป็นหลักทรัพย์ค้ำประกัน พนักงานสอบสวนพิจารณาแล้วเห็นว่า นายรัชฎา เป็นข้าราชการระดับสูง มีตำแหน่งหน้าที่การงานมั่นคง ประกอบกับมีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง ไม่น่าจะมีพฤติกรรมหลบหนี จึงอนุญาตให้ได้รับการปล่อยตัวชั่วคราว