ข่าวเย็นประเด็นร้อน - เมื่อวานนี้ มีชาวบ้านไปพบศพหนุ่มไปทำงานประเทศเกาหลีใต้ เสียชีวิตอยู่ใต้สะพานข้ามทางรถไฟ จังหวัดสระบุรี โดยเสียชีวิตอย่างเป็นปริศนา ทางญาติ ๆ เชื่อว่าสาเหตุมาจากผู้ตายพบว่าภรรยามีชู้ จึงตัดสินใจคิดสั้นฆ่าตัวตาย ล่าสุดภรรยาออกมายืนยันแล้วว่าไม่เคยคบชู้ระหว่างสามีทำงานต่างประเทศ ตามที่ญาติฝั่งสามีใส่ร้าย เชื่อสามีถูกฆาตกรรม
จากกรณี เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองสระบุรี รับแจ้งมีชาวบ้านไปพบศพคนจมน้ำเสียชีวิต ที่บริเวณสะพานคลองเพรียว ใต้สะพานข้ามทางรถไฟ ตำบลปากเพรียว อำเภอเมือง จังหวัดสระบุรี เจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบว่า ชายที่เสียชีวิต คือ นายสายัน อายุ 48 ปี ชาวตำบลห้วยราช อำเภอห้วยราช จังหวัดบุรีรัมย์ ซึ่งจากการตรวจสอบเบื้องต้นพบรอยถลอกตามร่างกาย ที่บริเวณไหล่ด้านขวามีบาดแผลเป็นรูลึกลงไปคล้ายถูกเหล็กแหลมแทง ในกระเป๋าพบเงินสดจำนวน 92,000 บาท สลากกินแบ่งรัฐบาล งวดเดือนตุลาคมอีกจำนวนหลายฉบับ นอกจากนี้ยังพบเงินสกุลเกาหลีอีกจำนวนหนึ่ง เหรียญประมาณ 200 บาท พาสปอร์ต และบัตรประจำตัวประชาชน ตามที่เป็นข่าวไปแล้วนั้น
ต่อมาทางญาติผู้ตายได้กล่าวว่า ผู้ตายเครียดเรื่องภรรยา เพราะอยู่คนละที่ แล้วมาทราบข่าวมีแฟนใหม่ อาจจะไปดื่มสุราจนเกิดอาการไม่ปกติ ส่วนเรื่องที่ถูกทำร้ายบนรถไฟนั้น ทางญาติก็แปลกใจ หากมีคนทำร้ายบนรถไฟจะต้องมีคนเห็น เพราะเป็นช่วงเทศกาล มีคนเดินทางจำนวนมาก อยากให้ตำรวจเร่งคลี่คลายคดีด้วย
ล่าสุด วันนี้ ทีมข่าวเดินทางไปพบกับ นางจำปี อายุ 45 ปี อยู่ที่จังหวัดหนองคาย ภรรยาของผู้เสียชีวิต เปิดใจกับทีมข่าวว่า ตนเองเพิ่งทราบข่าวว่าสามีของตนเองถูกพบเป็นศพอยู่ใต้สะพานในคลองที่จังหวัดสระบุรี ซึ่งเพื่อนที่รู้จักกันได้โทรศัพท์มาบอก เมื่อเปิดดูข่าวก็ตกใจมาก เพราะสภาพศพของสามีมีบาดแผลถูกทำร้ายร่างกายบริเวณไหล่ขวาเป็นรูขนาดใหญ่ ซึ่งตนเองเชื่อว่าสามีต้องถูกฆาตกรรมแน่นอน และไม่เชื่อว่าสามีจะเมาตกขบวนรถไฟ เพราะตั้งแต่คบกันมา สามีไม่เคยเมาขาดสติขนาดนั้น และถึงแม้ว่าคนร้ายจะไม่ได้เอาทรัพย์สินก็สามีไป แต่ก็เป็นไปได้หรือไม่ที่สามีพยายามจะหนีหลังถูกทำร้ายเพื่อชิงทรัพย์ และหนีลงน้ำ ก่อนจะไปเสียชีวิต
ตนเองคบหากับสามีมาเกือบ 20 ปีแล้ว แต่ไม่ได้จดทะเบียนสมรส หรือมีลูกด้วยกัน โดยเมื่อ 6-7 ปีก่อน สามีได้ไปทำงานต่างประเทศ ไปเป็นช่างซ่อมอะไหล่เครื่องจักรต่าง ๆ ที่ประเทศเกาหลีใต้ สามีได้สัญญากับตนเองว่า หากทำงานเก็บเงินได้เยอะ ๆ จะกลับมาสร้างบ้าน สร้างครอบครัวอยู่ด้วยกันกับตนเอง และขอให้ตนเองรอ ซึ่งตนเองก็ตั้งตารอวันนั้นมาตลอด ซึ่งที่ผ่านมา สามีได้โอนเงินผ่านนายหน้าคนไทยที่ทำงานอยู่ โอนเงินให้ตนเองเดือนละ 10,000 บาท ไม่เคยขาด
ครั้งสุดท้ายที่คุยกัน คือ 25 ธันวาคม ที่ผ่านมา สามีโทรศัพท์มาบอกว่าได้ลาออกจากงานแล้ว และกำลังจะเดินทางกลับประเทศไทย และสามีสัญญาว่า วันที่ 18 มกราคม ที่จะถึงนี้ จะกลับมาใช้ชีวิตคู่ด้วยกัน ซึ่งสามียังส่งข้อความมาว่า "กูรักมึงนะ" เมื่อวันที่ 24 ธันวาคม อยู่เลย
ส่วนเรื่องที่ครอบครัวของสามีกล่าวหาว่า ตนเองแอบคบชู้ มีสามีใหม่ ทำให้สามีต้องเสียใจ ตนเองยืนยันว่าตนเองถูกใส่ร้าย เพราะฝั่งพ่อแม่ของสามีไม่ค่อยชอบตนเองเท่าไหร่อยู่แล้ว เรื่องที่สามีแบ่งเงินจากการทำงานมาให้ตนเองเดือนละ 10,000 บาท จะให้ตนเองไปสาบานที่ไหนก็ได้ ตนเองที่ผ่านมาไม่เคยมีใครนอกจากนายสายัญ ตนเองเสียใจมากที่สามีต้องมาเสียชีวิต และยังไม่รู้ว่าใครเป็นคนฆ่า แถมต้องมาถูกญาติฝั่งสามีว่าร้ายอีก และตนเองอยากให้ตำรวจช่วยเร่งคลี่คลายการเสียชีวิตของสามีให้เร็วที่สุด
ด้าน พล.ต.ต.วิชิต บุญชินวุฒิกุล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสระบุรี ได้ตรวจสอบเส้นทางการเดินทางของนายสายัน (ผู้เสียชีวิต) จนทราบว่า นายสายันได้ตีตั๋วรถไฟที่หัวลำโพง เมื่อวันที่ 31 ธันวาคม 2565 โดยขบวนรถเร็ว 139 กรุงเทพฯ(หัวลำโพง) - บุรีรัมย์ รถออกจากหัวลำโพงเมื่อเวลา 18.55 น. จะถึงบุรีรัมย์ เวลา 02.22 น. โดยเจ้าหน้าที่ได้มีการจำลองนั่งรถไฟจากหัวลำโพง จนมาถึงสระบุรี พร้อมตรวจสอบกล้องวงจรปิดภายในหัวลำโพงด้วยว่า นายสายันมีเหตุทะเลาะวิวาทกับใครบ้างหรือเปล่า โดยทราบว่า นายสายันได้โดยสารรถไฟอยู่ในโบกี้ที่ 11 ซึ่งมีทั้งหมด 12 โบกี้ จากการตรวจสอบพบว่าภายในห้องสุขาของรถไฟมีเข็มขัดถูกมัดไว้ที่ประตูล็อกด้านใน และบริเวณกระจกภายในห้องสุขามีรอยแตก เศษกระจกตกลงพื้น และยังพบเศษกระจกที่ตกอยู่บนทางรถไฟ บริเวณสะพานข้ามทางรถไฟด้วย ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ได้เร่งทำงานกันอย่างรัดกุม โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ตัดประเด็นใด ๆ ออก ซึ่งทั้งนี้ยังคงต้องรอผลการชันสูตรจากสถาบันนิติเวชอีกด้วย พร้อมทั้งจะติดตามบุคลที่ได้นั่งใกล้นายสายันบนรถไฟมาสอบสวนอีกด้วย
