ชาวประมงระยองวอนสภาทนายความช่วย เหตุน้ำมันดิบรั่ว ม.ค.65 เยียวยาไม่เป็นธรรม

ชาวประมงระยองวอนสภาทนายความช่วย เหตุน้ำมันดิบรั่ว ม.ค.65 เยียวยาไม่เป็นธรรม

View icon 118
วันที่ 5 ม.ค. 2566 | 17.48 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
ชาวประมงระยองวอนสภาทนายความช่วย เหตุน้ำมันดิบรั่ว ม.ค.65 บริษัทยังเยียวยาไม่เป็นธรรม หวั่นเบี้ยวเงินหลังหมดอายุความ

วันนี้(5 ม.ค.2566) เวลา 10.00 น. ผู้ประกอบอาชีพประมงพื้นบ้านและอาชีพต่อเนื่องการประมง จ.ระยอง ประมาณ 30 คน เดินทางมายื่นหนังสือขอความช่วยเหลือทางกฎหมายกับ นายวิเชียร ชุบไธสง นายกสภาทนายความในพระบรมราชูปถัมภ์ ถ.พหลโยธิน กรุงเทพฯ กรณีเกิดเหตุน้ำมันดิบใต้ทะเล บริเวณทุ่นผูกเรือน้ำลึกหรือจุดขนถ่ายน้ำมันในทะเลของบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง รั่วไหลบริเวณนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด ทำให้ผู้ประกอบอาชีพประมงพื้นบ้านและอาชีพต่อเนื่องกับห่วงโซ่อุปทานการประมงในอ่าว จ.ระยอง ได้รับผลกระทบเกี่ยวกับระบบนิเวศและรายได้จากการประกอบอาชีพ

นายวิเชียร กล่าวว่า กรณีนี้ส่งผลกระทบกับประชาชนเป็นจำนวนมาก สภาทนายความจะตั้งคณะทำงานขึ้นมา และเจรจาไกล่เกลี่ยข้อพิพาทในเบื้องต้น เพื่อให้เกิดความพอใจและเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย หากการเจรจาไม่เป็นผลจะนำไปสู่การฟ้องคดี โดยจะดำเนินการให้ประชาชนผู้เสียหายตั้งตัวแทนสมาชิกกลุ่มเป็นโจทก์ยื่นฟ้องคดีต่อศาล เพื่อดำเนินคดีแบบกลุ่ม

นายละม่อม บุญยงค์ ตัวแทนกลุ่มผู้ประกอบการอาชีพประมงพื้นบ้านและอาชีพต่อเนี่องการประมง จ.ระยอง ระบุว่า เหตุการณ์กรณีน้ำมันดิบรั่วไหลลงอ่าวระยอง เมื่อวันที่ 25 ม.ค.2565 ที่ผ่านมา ทำให้ผู้ประกอบอาชีพประมงพื้นบ้านและอาชีพต่อเนื่อง จ.ระยอง ได้รับผลกระทบเกี่ยวกับรายได้จากการประกอบอาชีพ เนื่องจากเหตุการณ์น้ำมันดิบรั่วไหลครั้งนี้ ยังไม่ทราบจำนวนรั่วไหลที่แน่ชัด เพราะขนส่งน้ำมันดิบจากเรือถึงโรงกลั่นผ่านท่อแข็งที่มีความชำรุดทรุดโทรม ส่งผลกระทบต่อทรัพยากรสัตว์น้ำบริเวณชายฝั่งที่ชาวประมงพื้นบ้านใช้เป็นที่ทำมาหากิน ผลของน้ำมันดิบรั่วไหลและการใช้สารเคมีกำจัดคราบน้ำมันในพื้นที่ ทะเลตื้นทำให้สัตว์น้ำหลายประเภทหายไปจากบริเวณอ่าวระยอง ซึ่งปัจจุบันเรือประมงหลายประเภทต้องจอดนิ่งอยู่ท่าเรือ เนื่องจากเรือออกไปไม่มีสัตว์น้ำให้จับ ซึ่งส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจเป็นอย่างมาก อีกทั้งความขาดแคลนนี้ยังส่งผลกระทบเชิงลบต่อเนื่องไปถึงห่วงโซ่ นอกจากนี้การประมงพื้นบ้านและเรือขนาดกลางที่หากินได้จากจุดที่น้ำมันดิบรั่วไหล ยังสร้างความหวาดระแวงต่อประชาชนในพื้นที่และนักท่องเที่ยวที่จะตัดสินใจซื้ออาหารทะเล ทั้งที่เป็นวัตถุดิบและปรุงสำเร็จใน จ.ระยอง

ทั้งนี้ กลุ่มผู้ได้รับผลกระทบจากการรั่วไหลของน้ำมันดิบในครั้งนี้ ที่มาจากพื้นที่ปากน้ำระยองและเครือข่าย ต้องการที่จะเจรจาหาข้อยุติร่วมกันระหว่างบริษัทก่อมลพิษ กับประชาชนที่ได้รับผลกระทบเพื่อให้ได้รับค่าเยียวยาที่เป็นธรรม เป็นการเรียกค่าชดเชยตามความเป็นจริงจากการสูญรายได้ที่ควรจะได้ ซึ่งบริษัทผู้ก่อเหตุยังไม่ได้เยียวยาชดเชยอย่างเป็นธรรม เกรงว่าจะดึงเรื่องการชดเชยเยียวยาจนหมดอายุความเรียกร้องค่าเสียหาย โดยกลุ่มผู้ได้รับผลกระทบและต้องการเยียวยาอย่างยุติธรรม แบ่งเป็น 3 กลุ่ม ดังนี้
1. กลุ่มประมงพื้นบ้าน จำนวนเรือกว่า 150 ลำ
2. กลุ่มพ่อค้า แม่ค้า ที่ขาดทุนจากการค้าขายสัตว์น้ำที่ซื้อต่อจากเรือประมงและขายไม่ออก จำนวนกว่า 50 คน
3. กลุ่มลูกจ้างเรือประมง จำนวนกว่า 50 คน