ข่าวภาคค่ำ - ดรามาอื้อฉาว จากกรณีปลัดกระทรวงมหาดไทย ใช้ถ้อยคำไม่เหมาะสม ดูถูกผู้ใต้บังคับบัญชา บุลลีมหาวิทยาลัยเอกชน ลามไปถึงแนะให้จังหวัดภูเก็ตถอนตัวจากการเสนอตัวเป็นเจ้าภาพจัดงาน Specialised Expo 2028 ทั้งที่รัฐบาลอนุมัติงบสนับสนุนไปแล้วมากกว่า 4,000 ล้านบาท ที่มาที่ไปโครงการนี้เป็นอย่างไร จะเกิดอะไรขึ้นกับปลัดกระทรวงมหาดไทยหรือไม่ ติดตามในคอลัมน์หมายเลข 7 กับคุณสุธาทิพย์ ผาสุข
นับตั้งแต่เกิดเรื่องอื้อฉาว การพูดจาแสดงพฤติกรรมไม่เหมาะสม นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ได้ออกมาแสดงความรับผิดชอบ กล่าวคำขอโทษ ผ่านเฟซบุ๊ก เพียงหนึ่งครั้ง โดยอ้างถึงเรื่องงาน Specialised Expo 2028 ที่พาดพิงไปถึงผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เพราะอยากให้จัดการปัญหาสิ่งแวดล้อม และอธิบายว่าคลิปที่มีการเผยแพร่ผ่านโลกโซเชียล เป็นการตัดต่อแบบสั้น ๆ แต่ก็ยังมีคำถามตามมาว่า เหตุใดปลัดกระทรวงมหาดไทย จึงเสนอให้จังหวัดภูเก็ตถอนตัว ทั้งที่น่าจะรับทราบอยู่แล้วว่า เป็นนโยบายสำคัญของรัฐบาลที่ดำเนินการอย่างต่อเนื่องมาเป็นเวลาเกือบ 2 ปี ภายใต้ชื่อ EXPO 2028 - Phuket Thailand
ปัญหาที่เกิดขึ้นกระทบใจชาวภูเก็ต จนเกิดการเคลื่อนไหวในหลายภาคส่วน พร้อมทั้งยื่นหนังสือขอให้ตรวจสอบคุณธรรมและจริยธรรมของปลัดกระทรวงมหาดไทย เพราะมองว่าคำพูดดังกล่าวบ่งบอกถึงการไม่ปฏิบัติตามนโยบายของชาติ และยังส่งผลกระทบต่อความรู้สึกของชาวจังหวัดภูเก็ต โดยนอกจากให้ตรวจสอบจริยธรรมแล้ว ยังยื่นถอดถอนให้พ้นจากตำแหน่งปลัดกระทรวงมหาดไทยด้วย ขณะที่คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนมองว่า พฤติกรรมของปลัดกระทรวงมหาดไทย ละเมิดศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์
การนิ่งเงียบของปลัดกระทรวงมหาดไทย ที่เสมือนรอให้เรื่องต่าง ๆ เงียบไปเอง ประกอบกับการที่ พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ไม่ขยับดำเนินการใด ๆ กับผู้ใต้บังคับบัญชา แม้กระทั่งคำตำหนิ ก็ทำให้ตกเป็นเป้า ที่ฝ่ายค้านจ่อถล่มในศึกซักฟอกแบบไม่ลงมติในช่วงปลายเดือนนี้
หนึ่งในแนวทางการปฏิบัติตนของข้าราชการพลเรือน ที่กำหนดไว้ในประมวลจริยธรรมข้าราชการพลเรือน กำหนดให้เคารพต่อศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ดำรงตนเป็นแบบอย่างที่ดี รักษาภาพลักษณ์ของทางราชการ
ส่วนพฤติกรรมของปลัดกระทรวงมหาดไทย จะเข้าข่ายขัดจริยธรรม ตามที่มีการร้องเรียนถึงขั้นให้ถอดถอนจากตำแหน่งหรือไม่ ผู้มีอำนาจต้องเป็นผู้ตัดสิน และต้องไม่ลืมว่าสังคมจับตาดูอยู่
