นครบาลตามรวบ "นิว สามโคก" หลอกขายอะไหล่รถบิกไบก์ เสียหายกว่า 3 ล้านบาท พบหมายจับอื้อ

นครบาลตามรวบ "นิว สามโคก" หลอกขายอะไหล่รถบิกไบก์ เสียหายกว่า 3 ล้านบาท พบหมายจับอื้อ

View icon 189
วันที่ 8 ม.ค. 2566 | 12.38 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
วันนี้ (8 ม.ค.66) พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. สั่งการให้ พ.ต.อ.ฤตวีร์ สุขเจริญ ผกก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สส.บช.น. , พ.ต.ท.พัชรพงษ์ กาญจนวัฎศรี รอง ผกก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น , พ.ต.ท.สมพงษ์ เกตุระติ สว.กก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สส.บช.น. , พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฏิบัติการที่ 5 กก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. สืบสวนติดตามจับกุมตัว นายกฤษณะ หรือนิว อายุ 31 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลแขวงสุพรรณบุรี ลงวันที่ 28 ธ.ค.65 ในข้อหาร่ามกันฉ้อโกงและโดยทุจริต หรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมฯ โดยสามารถจับกุมได้ที่บริเวณกลางซอย 4/1 ภายในหมู่บ้านแห่งหนึ่งใน ตำบลสามโคก อำเภอสามโคก ปทุมธานี

พฤติการณ์ของคนร้ายรายนี้จะใช้กลอุบายโพสต์หลอกขายอะไหล่รถจักรยานยนต์บิกไบก์ในกลุ่มโซเซียล เหตุเกิดเมื่อวันที่ 31 ธ.ค.65 เป็นเหตุให้มีผู้เสียหายหลายรายหลงเชื่อตกเป็นเหยื่อ มูลค่าความเสียหาย 3 ล้านบาท จนมีการตั้งกลุ่มทางโซเชียล รวมพลคนถูกนายกฤษณะโกงเงิน มีสมาชิกกว่า 200 คน 

ในชั้นจับกุมผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ ในข้อกล่าวหาตามหมายจับ พร้อมให้ข้อมูลว่า เริ่มมีพฤติกรรมโพสต์หลอกขายสินทางทางออนไลน์มาตั้งแต่ประมาณปี 2553 โดยเริ่มจากการหลอกขายโทรศัพท์มือถือที่ไม่ตรงกับคำสั่งซื้อของลูกค้าจนถูกจับกุมในข้อหาฉ้อโกง เมื่อปลายปี 2554 ครั้งนั้นถูกศาลตัดสินจำคุก 1 ปี 6 เดือน แต่ให้ลงอาญา 2 ปี ต่อมาปี 2555 ถูกจับกุมในข้อหาฉ้อโกง ถูกตัดสินจำคุก 2 ปี 9 เดือน หลังพ้นโทษได้หลอกขายอะไหล่รถยนต์ในเพจ/กลุ่มเฟซบุ๊กต่างๆ กว่า 50 กลุ่ม และเช่าบัญชีจากกลุ่มเฟซบุ๊กซื้อขายบัญชีธนาคาร เพื่อใช้รองรับเงิน โดยจะได้ทั้งเลขบัญชีธนาคารและรูปถ่ายบัตรประจำตัวชาชนของเจ้าของบัญชีมาเพื่อใช้ในการรองรับเงินที่หลอกได้จากผู้เสียหาย เงินที่ได้ส่วนใหญ่นำมาใช้จ่ายในชีวิตประจำวันในครอบครัว รวมทั้งซื้อสิ่งของที่ตนอยากได้ 

ทั้งนี้ จากการตรวจสอบประวัติการกระทำความผิดของผู้ต้องหารายดังกล่าว ในฐานข้อมูลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พบว่านายกฤษณะ มีหมายจับที่เคยถูกจับกุมและยังต้องการตัวเพื่อดำเนินคดีในข้อหาฉ้อโกงและฉ้อโกงประชาชน รวม 13 คดี เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงทำหนังสือประสาน เพื่อให้พนักงานสอบสวนผู้รับผิดชอบแต่ละคดีทำการอายัดตัวผู้ต้องหาไว้ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
 
พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. กล่าวแจ้งเตือนประชาชนว่า ในสังคมปัจจุบัน มิจฉาชีพมีกลโกงมากมายหลายรูปแบบ ขอให้ประชาชนได้โปรดใช้สติอย่างหลงเชื่อกลโกง หากไม่แน่ใจ หรือสงสัยว่าบุคคลที่เข้ามาเสนอผลประโยชน์ เสนอขาย หรือชักชวนลงทุนในด้านต่างๆ สามารถสอบถามมายังเพจ “สืบสวนนครบาล IDMB” ได้ตลอด 24 ชม. หรือต้องการแจ้งเบาะแสการกระทำความผิดก็แจ้งได้

ข่าวที่เกี่ยวข้อง