ประชุมร่วมรัฐสภาไม่รอดล่ม 2 วันติด ผ่านแค่มาตราเดียว หลังลงมติร่างกฎหมายการศึกษาแห่งชาติ

ประชุมร่วมรัฐสภาไม่รอดล่ม 2 วันติด ผ่านแค่มาตราเดียว หลังลงมติร่างกฎหมายการศึกษาแห่งชาติ

View icon 148
วันที่ 11 ม.ค. 2566 | 15.04 น.
ข่าวช่อง7HD
แชร์
ประชุมร่วมรัฐสภาไม่รอดล่ม 2 วันติด ผ่านแค่มาตราเดียว หลังลงมติร่างกฎหมายการศึกษาแห่งชาติ ฝ่ายค้านติงประธานดึงดันจะเดินหน้าลงมติใหม่ ทั้งที่องค์ประชุมไม่ครบ เชื่อครูและนักเรียนไม่อยากได้กฎหมายนี้

การประชุมร่วมกันของรัฐสภาเพื่อพิจารณาร่าง พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ ต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 โดยเมื่อเข้าสู่ช่วงการลงมติในมาตรา 8 ( 1 )  ซึ่งเป็นมาตราที่เพิ่มขึ้นใหม่เกี่ยวกับสมรรถนะผู้เรียนช่วงแรกเกิดจนครบหนึ่งปี หลังจากนับองค์ประชุมมีสมาชิกมาแสดงตน 349 คน นายพรเพชร วิชิตชลชัย รองประธานรัฐสภา ในฐานะประธานในที่ประชุม ได้ตั้งคำถามเพื่อลงมติว่า
ผู้ใดเห็นด้วยกับผู้แปรญัตติที่ขอสงวนคำแปรญัตติกฎปุ่มเห็นด้วย ผู้ใดไม่เห็นด้วยกับผู้แปรญัตติที่ขอสงวนคำแปรญัตติกดปุ่มไม่เห็นด้วย ซึ่งในระหว่างระหว่างที่ประธานพูดคำถามมีสมาชิกกดลงคะแนนแล้ว ทำให้อาจเกิดความคลาดเคลื่อน ประธานในที่ประชุมจึงขอล้างระบบเพื่อลงมติใหม่และถามคำถามใหม่เพื่อลงมติ แต่เมื่อมีการแสดงผลการลงมติปรากฎว่าจำนวนผู้ลงมติจากเดิมเหลือเพียง 339 คน ทำให้เกิดข้อถกเถียงขึ้น เนื่องจากจำนวนผู้ลงมติไม่ถึงกึ่งหนึ่งขององค์ประชุม ทำให้นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ สส.กทม. พรรคเพื่อไทย ขอให้ประธานฯแสดงผลการประชุมอีกครั้ง เนื่องจากยังติดใจตัวเลขผู้ลงมติที่เห็นว่าไม่ถึงกึ่งหนึ่ง  แต่ประธานฯ เห็นว่า ตัวเลขหน้าจอแสดงผลครบ นายจิรายุ จึงเสนอให้ลงมติใหม่ / ทำให้สมาชิกหลายคนไม่เห็นด้วย เพราะได้ปิดการลงมติไปแล้ว ไม่สามารถลงมติใหม่ได้ 

ด้านนายพีระเพชร ศิริกุล สส.กาฬสินธุ์ พรรคเพื่อไทย ยืนยันว่าองค์ประชุมไม่ครบต้องปิดองค์ประชุม พร้อมย้อนถามประธานฯว่า หากไม่ได้ดั่งใจ จะต้องทำใหม่ไปเรื่อยๆใช่หรือไม่ เพราะเรื่องนี้ประชาชนจับตาดูอยู่ และถ้าพูดว่ากฎหมายฉบับนี้ครูทั้งประเทศไม่พอใจ เพราะไม่มองเห็นความสำคัญของครูและเด็กเลย แม้แต่ฝ่ายที่เขียนกฎหมายก็ไม่อยากให้ผ่าน / เช่นเดียวกับนายจิรายุ จึงย้ำอีกครั้งว่า ตัวเลขที่แสดงผลถูกต้องแล้ว เมื่อไม่ครบองค์ประชุมประธานควรสั่งปิดการประชุมหรือหาแนวทางดำเนินการให้ถูกต้องตามกฎหมาย

ด้านนายสมชาย แสวงการ สมาชิกวุฒิสภา ขอให้ประธานในที่ประชุม ใช้ข้อบังคับการประชุมรัฐสภานับองค์ประชุมใหม่และลงมติใหม่ด้วยวิธีอื่น เพื่อให้การประชุมสามารถเดินหน้าต่อได้ แต่นายวัลลภ ตังคณานุรักษ์ สมาชิกวุฒิสภา เห็นด้วยกับฝ่ายค้าน ย้ำว่า หากตัวเลขไม่ครบ ก็จำเป็นต้องปิดการประชุม ทำให้ประธานฯสั่งปิดการประชุมทันทีในเวลา 12.49 นาฬิกา

อย่างไรก็ตามการประชุมร่วมกันของรัฐสภาส่อแววมีปัญหาเรื่ององค์ประชุมตั้งแต่เปิดการประชุม เพื่อลงมติในมาตรา 7(1) เกี่ยวกับวัตถุประสงค์การพัฒนาผู้เรียน ที่ค้างการลงมติเพราะการประชุมรัฐสภาล่มตั่งแต่เมื่อวานนี้ ( 10 ม.ค. ) แม้ว่าองค์ประชุมจะครบสามารถลงมติได้ แต่เมื่อต้องลงมติยังต้องใช้เวลาในการรอเกือบ 30 นาที