หนุ่มนักธุรกิจ ถูกมือดีขโมยฉกทรัพย์สิน นาฬิกาหรู-แหวนเพชร สูญกว่า 10 ล้าน ในล็อกเกอร์ฟิตเนส

หนุ่มนักธุรกิจ ถูกมือดีขโมยฉกทรัพย์สิน นาฬิกาหรู-แหวนเพชร สูญกว่า 10 ล้าน ในล็อกเกอร์ฟิตเนส

View icon 753
วันที่ 12 ม.ค. 2566 | 08.06 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
หนุ่มนักธุรกิจ ถูกมือดีขโมยฉกทรัพย์สินมีค่าไปขณะเก็บไว้ในล็อกเกอร์ตอนออกกำลังกายที่ฟิตเนส ชื่อดังบนห้างย่านงามวงศ์วาน ทำให้เสียทรัพย์สินไปกว่า 10ล้านบาท 

ค่ำวานนี้ ( 11 ม.ค.2566 ) ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจากนายสาธิต นักธุรกิจอายุ 35 ปี ว่าถูกมือดีขโมยฉกทรัพย์สินมีค่าไปขณะเก็บไว้ในล็อกเกอร์ตอนออกกำลังกายที่ฟิตเนตชื่อดังย่านงามวงศ์วาน ทำให้เสียทรัพย์สินไปกว่า 10ล้านบาท 

นายสาธิตเปิดเผยว่า เมื่อเวลา 18.00น. (วันที่ 10 ม.ค.2566 ) ที่ผ่านมา ตนเองเป็นผู้ที่ชื่นชอบการออกกำลังกาย หลังทำงานเสร็จ มักจะแวะเวียนไปออกกำลังกายเล่นฟิตเนตที่บนห้างสรรพสินค้าชื่อดังย่านงามวงศ์วาน จ.นนทบุรี เป็นประจำ ซึ่งตนก็เดินทางไปเล่นฟิตเนสแห่งนี้ตามปกติ จึงได้ถอดเก็บสิ่งของมีค่าที่ใส่ติดตัวเป็นประจำรวมกันเอาไว้ภายในกระเป๋าสะพายแล้วใส่เก็บไว้ในล็อกเกอร์ที่เก็บของแข็งแรงอย่างดีของฟิตเนต ที่เตรียมเอาไว้ลูกค้าได้ใช้บริการ

โดยหลังจากออกกำลังกายเสร็จ ใช้เวลาประมาณ 2 ชม.หรือเวลา 20.00 น. ตนได้เดินมาเปิดที่ล็อกเกอร์หมายเลข 017 เพื่อหยิบเอากระเป๋าเสื้อผ้าที่เก็บไว้ภายในล็อกเกอร์ตามปกติ แต่ต้องตกใจ เมื่อเปิดดูแล้วพบกับความว่างเปล่าอยู่ด้านใน ทั้งกระเป๋าใบใหญ่ ทั้งใบได้หายไปแล้ว ยังนึกเลยว่าเปิดล็อเกอร์ผิดตู้ ผิดเบอร์หรือเปล่า จึงยืนตรวจสอบดูอย่างละเอียดอีกครั้ง จนแน่ชัดแล้วว่ากระเป๋าพร้อมของมีค่าได้ถูกโจรมือดีลักทรัพย์หายไปแน่แล้ว

ซึ่งภายในกระเป๋าสะพาย มีทรัพย์สินที่หายไป อาทิ พระเครื่อง สมเด็จวัดระฆังเลี่ยมทอง หลวงพ่อโตเลี่ยมทอง ครุฑเลี่ยมทอง พร้อมสร้อยทอง นาฬิกาโรเล็กซ์ฝั่งเพชร เลสข้อมือฝั่งเพชร และแหวนเพชร พวงกุญแจรถ ซึ่งสิ่งของที่หายไปหลายรายการ รวมกันมูลค่ากว่า 10ล้านบาท

ขโมยฉกทรัพย์สิน

ต่อมาแจ้งทางพนักงานของสถานที่ออกกำลังกายดังกล่าว และแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจมาตรวจสอบ พร้อมเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานมาเก็บรอยนิ้วมือในที่เกิดเหตุ ซึ่งที่ฝาปิดตู้ล็อกเกอร์กลับไม่พบร่องรอยของการงัดแงะที่บริเวณล็อกเกอร์เก็บของ คาดว่าคนร้ายน่าจะอาศัยช่วงที่ตนไปออกกำลังกายใช้กุญแจสำรองอีกดอก มาไขเปิดเอาทรัพย์สินมีค่าไปทั้งกระเป๋า แต่แปลกใจที่ของมีค่ากระเป๋าของตนหายไปอยู่ล็อคเกอร์เดียว ซึ่งสอบถามทางพนักงานดูแลสถานที่บอกเพียงแต่ว่าจะตรวจสอบให้ โดยในจุดนี้จะไม่มีกล้องวงจรปิดCCTV ติดตั้งบริเวณหน้าล็อกเกอร์ที่ใช้เก็บของมีค่าของลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการ แต่ในขณะที่จุดอื่นๆมี

ตนจึงได้เดินทางเข้าแจ้งความเพื่อลงบันทึกประจำวันเอาไว้เป็นหลักฐานแล้วที่สถานีตำรวจภูธรเมืองนนทบุรี และจนถึงขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่มีความคืบหน้าใดๆติดต่อกลับมาเลย แต่ได้ทราบข้อมูลมาว่า มีลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการในสถานที่ฟิตเนสชื่อดังแห่งนี้ ของได้หายไปหลายรายแล้ว ตนหวั่นผ่านไปหลายวันอาจเรื่องเงียบหายไปอีกเหมือนกับรายอื่นๆ ยังสงสัยว่ามีคนรู้ช่วงเวลา และตู้ที่ใช้เก็บของของตนเบอร์อะไรได้อย่างไร

วอนเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรเมืองนนทบุรี เร่งติดตามตัวจับคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายให้ด้วย กลัวคนร้ายรายนี้จะก่อเหตุลักทรัพย์กับคนอื่นๆเพิ่มเติมอีก ซึ่งตอนนี้ทางครอบครัวตนได้ปรึกษาทนายความเพื่อจะดำเนินการฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายที่สูญหายไปกับทางเจ้าของฟิตเนสแห่งนี้