สนามข่าว 7 สี - หนุ่มนักธุรกิจจ่อฟ้องดำเนินคดีกับฟิตเนสชื่อดัง กรณีเก็บนาฬิกาหรูฝังเพชรมูลค่า 10 ล้านบาท ที่ใส่ไว้ในล็อกเกอร์ภายในฟิตเนส แต่หายไปหลังเล่นฟิตเนสเสร็จ โดยทางฟิตเนสแจ้งว่าไม่มีวงจรปิดตรงจุดที่เกิดเหตุ จึงไม่สามารถตรวจสอบได้
ชายอายุ 35 ปี นักธุรกิจ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 10 มกราคม ช่วงเย็น ตนเองไปออกกำลังกายที่ฟิตเนสในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นสถานที่ที่ตนเองมาเล่นฟิตเนสเป็นประจำ และได้ถอดของมีค่าทั้งหมด ได้แก่ พระพร้อมสร้อยคอทองคำ กำไรข้อมือฝังเพชร แหวนเพชร และนาฬิกาแบรนด์ดัง กุญแจรถ รวมมูลค่ากว่า 10 ล้านบาท เก็บไว้ในกระเป๋า ก่อนจะนำเข้าล็อกเกอร์ของทางฟิตเนสเอาไว้ ซึ่งดูแข็งแรงปกติดี และตนเองก็เก็บกุญแจล็อกเกอร์ไว้กับตัวตลอด
แต่หลังจากออกกำลังกายเสร็จจึงเดินมาหยิบเสื้อผ้าและของปกติ แต่พอเปิดกระเป๋าดูถึงกับตกใจ เพราะของในกระเป๋าหายไปหมดแล้ว ทั้งของมีค่า ครีมทาผิว กางเกงใน ก็นึกว่าตนเองเปิดล็อกเกอร์ผิด แต่เมื่อตรวจดูอย่างละเอียดก็พบว่าของหายไปจริง ๆ ซึ่งล็อกเกอร์ไม่มีร่องรอยการงัดแงะแต่อย่างใด เหมือนคนเปิดปกติแล้วหยิบของออกไปเฉย ๆ หลังจากนั้นตนเองจึงไปแจ้งพนักงานประจำฟิตเนสเพื่อขอตรวจสอบภาพวงจรปิด โดยพนักงานแจ้งว่าจะตรวจสอบให้ แต่บริเวณล็อกเกอร์ไม่มีวงจรปิด ทำให้ตนเองยิ่งแปลกใจ เพราะจุดอื่น ๆ มีหมด
ล่าสุด เมื่อวานนี้ (12 ม.ค.) พันตำรวจเอก จาตุรนต์ อนุรักษ์บัณฑิต ผู้กำกับการ สภ.เมืองนนทบุรี ได้เชิญตัวผู้เสียหายมาที่โรงพักเพื่อสอบปากคำเพิ่มเติม ก่อนออกมาเปิดเผยว่า ตำรวจไม่ได้นิ่งนอนใจจะรีบเร่งดำเนินการสืบสวนหาตัวคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายโดยเร็วที่สุด จากการสอบสวนเบื้องต้นการกระทำของคนร้ายเข้าข่ายข้อหาลักทรัพย์ ส่วนด้านฟิตเนส ปฏิเสธการให้สัมภาษณ์ใด ๆ กับสื่อมวลชน โดยยืนยันว่าส่งมอบหลักฐานให้ตำรวจหมดแล้ว
ชายอายุ 35 ปี ผู้เสียหาย เล่าว่า ในวันที่เกิดเหตุ ตนเองได้โทรศัพท์ไปแจ้งความกับตำรวจ เพื่อให้มาตรวจสอบที่เกิดเหตุ แต่ทางฟิตเนสไม่อนุญาตให้เข้า โดยแจ้งว่าต้องมีหมายค้นก่อน จึงตัดสินใจเดินทางไปแจ้งความไว้ที่ สภ.เมืองนนทบุรี โดยกังวลว่าเรื่องดังกล่าวจะเงียบไป รวมถึงอยากให้เจ้าของออกมาแสดงความรับผิดชอบ และเสริมระบบความปลอดภัยให้มากขึ้นด้วย
ส่วนคำถามที่ชาวโซเชียลตั้งข้อสงสัยถึงการพกทรัพย์สินมีค่าติดตัว เจ้าตัวชี้แจงว่าเป็นเรื่องปกติที่ตัวเองใส่เครื่องประดับไปทำงานทุกวัน เพราะเป็นความชอบส่วนตัว และยังยืนยันด้วยว่า มูลค่าทรัพย์สินที่ประเมินไว้ยังต่ำกว่าราคาเป็นจริง
ขณะเดียวกันก็มีชายอายุ 31 ปี หนึ่งในสมาชิกของฟิตเนส เปิดเผยว่า ตนเองก็เคยของหายเช่นกัน แต่ผ่านมาแล้วประมาณ 1-2 ปี แต่เป็นของราคาไม่แพง จึงไม่ได้ติดใจเอาความ แต่ครั้งนั้นทำให้รู้สึกกังวล จึงหยุดเล่นฟิตเนสไปสักพักเพราะรู้สึกไม่สบายใจ ซึ่งที่ผ่านมาตนเองเป็นสมาชิกฟิตเนสแห่งนี้มา 10 ปีแล้ว และได้ยินเรื่องของหายบ่อย ทำให้ตนเองต้องระวังมากขึ้น และเตือนเพื่อน ๆ คนอื่นด้วย
