ลานปาล์มแฉ โรงงานหยุดรับซื้อทิพย์ วางแผนกินรวบทั้งระบบ

ลานปาล์มแฉ โรงงานหยุดรับซื้อทิพย์ วางแผนกินรวบทั้งระบบ

View icon 5.3K
วันที่ 15 ม.ค. 2566 | 12.18 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
ลานปาล์มแฉ โรงงานหยุดรับซื้อทิพย์ วางแผนกินรวบทั้งระบบ หวังเปลี่ยนกลไกซื้อขาย เชื่อทำเป็นขบวนการ  ล่าสุดราคาปาล์มน้ำมัน ร่วงเหลือ 3.50-3.80 บาทต่อ กก.

จากกรณีโรงงานสกัดน้ำมันปาล์มในหลายจังหวัดหยุดรับซื้อผลปาล์มน้ำมันจากลานเทรับซื้อ และทำให้มีผลปาล์มที่รอการจีดส่งตกค้างอยู่บนรถบรรทุกหน้าโรงงานจำนวนมาก ซึ่งทางโรงงานอ้างว่า ผลปาล์มน้ำมันมีจำนวนมากหลังจากหยุดรับซื้อในช่วงปีใหม่ที่ผ่านมา และเกษตรกรตัดขายพร้อมกันจนทำให้ไม่สามารถสกัดได้ทัน จึงกระทบต่อมายังเกษตรกรที่จะนำผลปาล์มไปขายที่ลานเทใกล้บ้าน ส่งผลให้ราคาตกต่ำลงมาจากที่ปีใหม่เปิดรับซื้ออยู่ที่ กก.ละ 5 บาท ล่าสุดราคาตกลงมาเหลือที่ 3.50-3.80 บาท ต่อ กก. และขณะนี้ก็ยังหยุดรับซื้อ

วันนี้ (15 ม.ค.66) ผู้สื่อข่าวตรวจสอบไปที่โรงงานสกัดในพื้นที่ อ.เขาพนม จ.กระบี่ พบว่า โรงงานสกัดยังคงเดินเครื่องสกัดน้ำมันปาล์ม แต่หยุดรับซื้อจากลานรับซื้อ โดยให้เหตุผลว่า มีปริมาณผลปาล์มจำนวนมากเกินกว่าที่จะรับได้ จึงรับซื้อจากเกษตรกรรายย่อยเท่านั้น

และเมื่อสอบถามไปยังลานเทรับซื้อผลปาล์มน้ำมันของเอกชน ระบุว่า ขณะนี้ลานปาล์มใน จ.กระบี่ ที่เปิดรับซื้อจะนำผลปาล์มไปส่งยังโรงงานสกัดในพื้นที่อื่นๆ เช่น ที่ อ.เขาพนม จ.กระบี่ จะส่งไปยังโรงสกัดในพื้นที่ อ.ชัยบุรี และ อ.พระแสง จ.สุราษฏร์ธานี แทน

ส่วนการหยุดรับซื้อผลปาล์มนั้น อาจมีสาเหตุาจากการรวมตัวของโรงสกัดที่มีการอ้างว่ามีปริมาณปาล์มมากเกินไป ทั้งที่ไม่เป็นความจริง แต่ได้สร้างกลไก ว่าปาล์มมีปริมาณมากเกิน โดยตั้งแต่ปลายปีโรงงานจำนวนมาก หยุดทำการในช่วงเทศกาลปีใหม่ ก่อนกำหนด หลังจากนั้นเมื่อเปิดรับซื้อได้แค่ 2-3 วัน ก็อ้างว่าผลปาล์มเข้าจำนวนมาก ซึ่งทางลานปาล์มนำผลผลิตไปส่ง แต่โรงงานไม่ยอมให้เข้า รอจนเกิดการสะสมของรถบรรทุกติดยาว

เจ้าของลานเท ยังระบุอีกว่า การทำให้ระบบการซื้อขายเกิดปัญหาทำให้ทางนายทุนได้เปรียบโดยสามารถกดราคาชาวสวน ซึ่งทำให้ลานรับซื้อต้องปรับราคาลงด้วยเช่นกัน ซึ่งการทำเช่นนี้ กระทบต่อลานรับซื้อปาล์มน้ำมันทั้งระบบ แต่สิ่งที่จะเกิดขึ้นคือลานหลายแห่งอาจจะต้องหยุดถาวร และเข้าทางที่โรงงานสกัดที่ขณะนี้ได้เปิดลานรับซื้อของตัวเองกระจายอยู่ในทุกพื้นที่แล้ว เป็นการเปิดกินรวบทั้งระบบ ซึ่งในอนาคตก็จะกระทบเกษตรกรเพราะโรงงานสามารถกำหนดราคาได้เอง เนื่องจากเกษตรกรต้องขายให้กับลานของโรงงานเท่านั้น ไม่มีลานรับซื้อที่มาช่วยแข่งขันกันซื้อเหมือนที่ผ่านมา ซึ่งมองว่าการที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี สั่งการให้ตรวจสอบเรื่อง “ปิดลานซ่อมเครื่องทิพย์” นั้น จะส่งผลดีและหากเป็นไปได้ควรเอาผิดผู้ที่ทำให้เกิดปัญหานี้จะเป็นผลดีต่อเกษตรกรอย่างมาก