เช้านี้ที่หมอชิต - แม้ตำรวจจะพยายามกวาด ล้างจับกุมขบวนการบัญชีม้า แต่พบว่ายังคงมีประชาชนถูกหลอกอย่างต่อเนื่องโดยอาศัยสื่อสังคมออนไลน์ที่คนใช้กันมากอย่าง เฟซบุ๊ก เป็นเครื่องมือในการก่อเหตุ
สองสัปดาห์ที่ผ่านมา คำว่า "บัญชีม้า" กลายเป็นคำที่ผู้ชมได้ยินบ่อย ๆ โดยเฉพาะจากเหตุที่เด็กอายุ 15 ปี ฆ่าตัวตาย เพราะเสียรู้ให้มิจฉาชีพ โอนเงินให้บัญชีม้าจนหมดตัว จนกลายเป็นเหตุสลด และต่อมาตำรวจไซเบอร์ไล่ล่ากลุ่มมิจฉาชีพกลุ่มนี้ รวมถึงบัญชีม้า
ก่อนจะไปอธิบายชัด ๆ ว่า บัญชีม้า คืออะไร ท่านผู้ชมที่ใช้เฟซบุ๊กอยู่บ่อย ๆ แล้ววันหนึ่งเกิดอยากหาหารายได้เสริมหากไปพบเฟซบุ๊กที่ลงข้อความ "รับซื้อบัญชีธนาคารที่ไม่ใช้แล้ว ให้ราคาดี" - "รับซื้อบัญชีธนาคาร สนใจทักมา " ถ้าไปเจอแบบนี้ อย่าไปหลงเชื่อเด็ดขาด เพราะอาจจะตกเป็นเหยื่อของกลุ่ม มิจฉาชีพที่จะนำบัญชีของเราไปใช้ในทางที่ผิดกฎหมายได้
บัญชีม้า คือ อะไร
บัญชีม้าคือบัญชีธนาคาร ของคนอื่นที่คนร้ายใช้เป็นช่อง ทางรับเงินและโอนเงิน ที่ได้ มาจากการทำผิด เพื่อป้องกันไม่ให้มีพยานหลักฐาน เชื่อมโยงมาถึงตัวคนร้ายมีหลายวิธีให้ได้มา ซึ่ง บัญชีม้า ทั้งโจรกรรมข้อมูลส่วนบุคคล นำไปเปิดบัญชี, จ้างให้บุคคลอื่นเปิดบัญชีหรือรับซื้อบัญชีเงินฝากธนาคารของบุคคลทั่วไป เพื่อนำไปใช้ทำความผิด พบมากในสังคมออนไลน์ที่มีการ ขายบัญชีธนาคารอย่างเปิดเผย ให้ราคาตั้งแต่ 300 บาท ไปจนถึง 20,000 บาท คนร้ายจะได้ทั้งสำเนาบัตรประชาชนและซิมการ์ดโทรศัพท์ที่ผูกกับบัญชีธนาคาร นำข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของบัญชีไปผูกกับ Mobile Banking เพื่อใช้ทำธุรกรรมออนไลน์ได้ทันที
ผู้สื่อข่าวของเราลองเข้าไปเสนอขายบัญชีธนาคารให้กับเพจแห่งหนึ่งที่ลงประกาศรับซื้อบัญชีธนาคารอย่างเปิดเผยในเฟซบุ๊ก ซึ่งตอนนี้พบว่าบัญชีของธนาคารแห่งหนึ่งกำลังเป็นที่ต้องการและรับซื้อในราคาสูง เมื่อทักไปทางเพจ เริ่มต้นขั้นแรกเราก็อาจจะถูกหลอกได้ง่าย ๆ นั่นคือ ทางฝ่ายผู้ซื้อบัญชีธนาคาร ที่ใช้นามแฝงจะรีบดึงเราเข้าไปคุยต่อในกลุ่มแชท และพยายามให้เราเปลี่ยนไปใช้ เบอร์โทรศัพท์หมายเลขอื่นเพื่อไปคุยต่อใน Line เมื่อเข้ากลุ่มแชทไปแล้ว ทางมิจฉาชีพจะรุกเร้าให้เรารีบส่งสำเนาบัตรประชาชนและภาพแคปเจอร์หน้าจอแอปฯ ธนาคาร ไปให้เขาดู เพียงเท่านี้หากเราหลงเชื่อ ข้อมูลส่วนบุคคลของเราก็จะตกไป อยู่ในมือของกลุ่มมิจฉาชีพได้ง่าย ๆ โดยเป้าหมายของมิจฉาชีพจะไม่ซื้อบัญชีธนาคารที่เคยมีเงินเข้า-ออก เยอะ ๆ เลยพบว่าเหยื่อที่ถูกหลอกมักเป็นชาวบ้านที่หาเช้ากินค่ำเป็นส่วนมาก
บัญชีม้าถูกนำไปใช้ทำอะไรบ้าง
เมื่อได้บัญชีธนาคารของเราไปแล้ว มิจฉาชีพจะเอาไปใช้ทำความผิดที่ พบมากคือ การพนัน, การฉ้อโกง การซื้อขายยาเสพติด, และเป็นนอมินีให้กลุ่มมิจฉาชีพ คนร้ายมักมีบัญชีม้าหลายบัญชีใช้ โอนเงินต่อกันเป็นทอด ๆ เพื่อป้องกันการถูกตรวจสอบอายัดเงิน
เช่นเมื่อผู้เสียหายถูกหลอกให้โอน เงินเข้าบัญชีม้าที่ 1 แล้ว ก็จะโอนเงินออกจากบัญชีนั้นไปยัง บัญชีม้าที่ 2 จากบัญชีม้าที่ 2 ต่อไปยังบัญชีม้าที่ 3 และที่ 4 บางรายมีบัญชีม้าถึง 5 บัญชี สุดท้ายคนร้ายก็จะถอนเงินของ เหยื่อออกไปโดยใช้เวลาเพียงไม่กี่นาทีเท่านั้น และหากถูกตำรวจอายัดบัญชี ก็จะเปลี่ยนไปใช้บัญชีม้าอื่น ๆ ที่ยังสามารถใช้งานแทนได้
แนวโน้มปัญหาบัญชีม้าในอนาคต
หลังถูกกวาดล้างอย่างหนักตอนนี้ กลุ่มมิจฉาชีพเริ่มเปลี่ยนมาใช้ กระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ (e-wallet) มากขึ้น นอกจากนี้ คนร้ายอาจใช้บัญชี cryptocurrency wallet โอน cryptocurrency ผ่านศูนย์ซื้อขายในต่างประเทศ ทำให้เกิดความล่าช้าหรือไม่ได้รับ ความร่วมมือในการสืบสวน เพื่อจับกุมคนผิดมาลงโทษ
ใช้โบรกเกอร์/ซ้อมทรมาน เจ้าของบัญชี
นอกจากนี้ คุณปุ้ย รสริน ได้ไปสัมภาษณ์คุณพงษธร อินอำนวย ผู้อำนวยการศูนย์คดียาเสพติด กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) บอกว่า ตอนนี้รูปแบบของขบวนการบัญชีม้าเปลี่ยนไปจากเดิมที่จะซื้อบัญชีธนา คารหรือจ้างบุคคลทั่วไป ให้ไปเปิดบัญชีธนาคารกับ ให้กับกลุ่มพนันออนไลน์หรือค้ายา เสพติดโดยตรง แต่มักมีปัญหา เจ้าของบัญชีเกิดสำนึกผิดรีบปิดบัญชี ทำให้มิจฉาชีพเอาบัญชีไปใช้ ไม่ได้ เขาเลยหันมาใช้ บริการจากโบรกเกอร์ แต่ละภาคของประเทศเรามี โบรกเกอร์อยู่ประมาณ 7 ราย แต่ละรายมีบัญชีม้าอยู่ในมือกว่า 300 บัญชีธนาคาร หากเจ้าของบัญชีปิดหรือระงับบัญชีธนาคารก็จะถูกโบรกเกอร์จับมา ซ้อมทรมาน คุณปุ้ยได้เห็นคลิปการซ้อมทรมานนี้ด้วยตาตัวเอง
การเฝ้าระวังและช่องทางแจ้งเหตุ
นอกจากนี้ธนาคารหลายแห่ง ก็ได้แจ้งเตือนประชาชนไม่ให้หลงกลตกเป็นเหยื่อของขบวนการบัญชีม้า หากพบเห็นการกระทำความผิด เช่น ประกาศรับซื้อบัญชีธนาคารในสื่อโซเชี่ยลต่าง ๆ แจ้งไปได้ที่หมายเลข 1441 ตำรวจไซเบอร์ หรือกด 1599 แจ้งไปที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ