ไขปริศนา เงินโอนออกจากบัญชี โดยไม่จับโทรศัทพ์ จ.อ่างทอง

View icon 9.9K
วันที่ 16 ม.ค. 2566 | 16.16 น.
ข่าวเย็นประเด็นร้อน
แชร์
ข่าวเย็นประเด็นร้อน - หนุ่มพนักงานเทศบาลสุดเช็ง เงินโดนโอนออกจากบัญชีธนาคารเกลี้ยง ทั้งที่ไม่ได้จับโทรศัทย์เลย มีคลิปขณะทำงานยืนยัน ว่าไม่ได้แตะต้องโทรศัพท์ มีสลิปโอนออกไปให้คนชื่อ นายอาตาบ่า จะลอ เผยไม่เคยกดลิงค์ใด ๆ

ไขปริศนา เงินโอนออกจากบัญชี โดยไม่จับโทรศัทพ์ จ.อ่างทอง
เมื่อเช้านี้ นายเกียรติกุล ศรีจันทร์ อายุ 38 ปี เจ้าหน้าที่เทศบาล ได้เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 3 มกราคม 2566 เวลา 14.59 น. ขณะที่ตนเองนั่งทำงานอยู่บนโต๊ะ และวางอยู่ข้างขวามือ โดยไม่แตะต้องเลย อยู่ดี ๆ เงินโอนออกไปให้กับ นายอาตาบ่า จะลอ ตนเองมารู้ตัวในช่วงเย็น ตนเองนั้นยืนยันว่าไม่รู้จักกับ นายอาตาบ่า และไม่ได้กดรับลิงค์ใด ๆ เลย เบื้องต้นได้ไปทำการแจ้งความ ที่ สภ.เมืองอ่างทอง

ตนเองก็แจ้งกับธนาคารให้ช่วยอายัตบัญชี นายอาตาบ่า จะลอ แต่เขากับอายัติบัญชีของตนเองทั้งไม่มีเงินเลย ตอนนี้ตนเองก็ได้นำใบแจ้งความไปประสานกับทางธนาคารเพื่อติดตามเงินคืนแต่ยังไม่มีความคืบหน้าใด ๆ เลย

2 หนุ่ม ร้องสื่อ เงินโอนออกเอง โดยไม่ได้จับโทรศัพท์
ไปดูเหตุการณ์คล้าย ๆ แบบนี้อีกกรณีหนึ่ง เมื่อวานก็มี 2 ผู้เสียหายไปร้องกับเพจสายไหมต้องรอด เพื่อให้ช่วยเหลือ หลังจากเงินถูกโอนออกจากบัญชีธนาคารอย่างไม่รู้เนื้อรู้ตัว ทั้งที่ผู้เสียหายไม่เคยโหลดแอปพลิเคชันอะไรแปลก ๆ ไม่ชาร์จแบตเตอรี่มือถือจากสายชาร์จคนอื่น หรือ ใช้ไวไฟที่สาธารณะ

โดนผู้เสียหายรายแรก เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 5 มกราคมที่ผ่านมา อยู่ดีๆโทรศัพท์มือถือหน้าจอดับ ใช้การไม่ได้กว่า 1 ชั่วโมง จากนั้นก็กลับมาใช้งานได้ตามปกติ แต่แอปฯ ของธนาคารกลับมีการแจ้งเตือนว่า แอปฯ ของธนาคารไม่ได้ถูกติดตั้งโดย Playstore ให้ทำการลบแอปฯ ออก และติดตั้งใหม่ ซึ่งตอนนั้นเงินยังไม่ได้หายออกไปจากธนาคาร กระทั่งวันที่ 11 มกราคม 2566 พบว่าเงินในแอปฯ ธนาคาร หายออกไปจากบัญชีเกือบ 100,000 บาท ไปเข้าบัญชี บัญชีหนึ่ง

ส่วนผู้เสียหายอีกคนบอกว่า เมื่อวันที่ 8 มกราคมที่ผ่านมา กำลังนั่งคุยกับพี่ชายที่บ้าน เพื่อวางแผนการทำงาน และวางโทรศัพท์ชาร์จแบตฯ ทิ้งไว้ที่โต๊ะใกล้ จู่ ๆ ก็มีข้อความจากธนาคารแจ้งว่า มีการโอนเงินจากแอปฯ ธนาคารของตนเอง ไปยังบัญชีของคนอื่น 100,000 บาท ตอนนั้นตกใจมาก เพราะไม่ได้เป็นผู้ทำธุรกรรม จึงไปแจ้งความกับตำรวจท้องที่ แต่ไม่มีความคืบหน้าอะไร

นายเอกภพ บอกว่า ตอนนี้รวบรวมผู้เสียหายได้เกือบ 20 คนแล้ว โดยโทรศัพท์ทั้งหมดที่ถูกแฮกฯ เป็นโทรศัพท์ในระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ โดยวันอังคารที่ 17 มกราคมนี้ จะพาผู้เสียหายเข้าแจ้งความกับตำรวจไซเบอร์ เพื่อให้ช่วยติดตามจับกุมผู้กระทำความผิด และเร่งหาแนวทางแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น

ส่วนอีกเคส เป็นการให้เบอร์โทรศัพท์กับเข้าลิงก์ ทำให้สูญเงินไป 1 ล้านบาท ผู้เสียหายเป็นหนุ่มอายุ 22 ปี เจ้าของเครื่องดื่มน้ำสมุนไพร โดยมิจฉาชีพโทรมาอ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่จากกรมสรรพากร โดยมีการสอบถามชื่อร้านและบอกให้ลงทะเบียนยกเลิกแอปพลิเคชั่นถุงเงิน จากนั้นมีการแอดไลน์จากเบอร์โทรพร้อมกับส่งลิงก์เข้ามาให้ หลังจากนั้นหน้าจอโทรศัพท์ก็ค้างไปเลย และมีรหัส OTP 6 ตัว ขึ้นมา แต่ตนเองไม่สามารถทําอะไรได้เลย ซึ่งระหว่างนั้นยังค้างสายโทรศัพท์กับมิจฉาชีพอยู่ โดยเขาอ้างว่ากําลังทํารายการตรวจสอบอยู่ ซึ่งมารู้ตัวอีกทีคือตอนที่เงินเด้งออกไปรอบแรกจํานวน 700,000 บาท และสายก็ตัดออกไปเลย และถูกดูดเงินอีกครั้งจํานวน 306,000 บาท รวมเป็นเงินทั้งสินจํานวน 1,006,000 บาท

ข่าวที่เกี่ยวข้อง