ถกไม่เถียง - 2 สามีภรรยา ร้องเรียนกับเพจ สายไหมต้องรอด กรณีที่สามีถูกตำรวจเรียกไปรับทราบข้อกล่าวหาในคดีเมื่อปี 2558 ข้อหาร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่น จากนั้นก็เรียกเงิน 100,000 บาท เพื่อแลกกับการไม่ดำเนินการคดี ปล่อยให้คดีขาดอายุความ คดีนี้ผู้ร้องงัดหลักฐานเด็ดออกมาโชว์ว่าไม่เคยมีส่วนเกี่ยวข้อง
เมื่อบ่ายวานนี้ คุณแฮ็ค พร้อมแฟนหนุ่ม และเพื่อน เดินทางเข้าพบ นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด เพื่อร้องขอความเป็นธรรม หลังแฟนหนุ่มและเพื่อน รวม 5 คน ตกเป็นผู้ต้องหาในคดีร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่น มีอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครอง โดยไม่ได้รับอนุญาต และพกพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน ทางสาธารณะ โดยไม่ได้รับอนุญาต และไม่มีเหตุอันควร ทั้ง ๆ ที่ไม่ได้ก่อเหตุ และไม่เคยรู้ด้วยซ้ำว่าผู้บาดเจ็บเป็นใคร และเหตุการณ์ที่อ้างก็ผ่านมา 7 ปีแล้ว ที่แปลกคือแฟนหนุ่มถูกออกหมายจับ ซ้ำถูกพนักงานสอบสวนโทรมาเรียกรับเงินกว่า 100,000 บาท เพื่อจบคดี
คุณแฮ็ค เล่าว่า ต้นเรื่องเกิดขึ้นวันที่ 15 เมษายน ปี 2558 เวลาประมาณ 20.00-21.00 น. แฟนนั่งกินหมูกระทะอยู่ที่บ้านเพื่อน และกำลังจะออกไปซื้อของกินที่ห้างโลตัส ตรงจุดที่ระบุว่าเป็นจุดเกิดเหตุ และเป็นจังหวะเดียวกับที่ตรงนั้นกำลังมีการทะเลาะวิวาทกัน แฟนได้กลับรถขับหนีกลับมาบ้าน ส่วนเพื่อนอีกคนวิ่งหนีเข้าไปในห้างโลตัส ซึ่งมีกล้องวงจรปิดบันทึกภาพไว้ชัดเจน
กระทั่งปี 2560 ตำรวจนำหมายจับมาจับแฟนที่บ้าน ตอนนั้นพ่อได้นำสมุดบัญชีที่มีเงินอยู่ 300,000 บาท ไปเป็นหลักทรัพย์ประกันตัวออกมา ส่วนเพื่อนได้จ่ายเงินสดไป 30,000 บาท ตอนนั้นเข้าใจว่าเป็นเงินประกันตัวจึงยอมจ่ายไป แต่ไม่มีหลักฐานการจ่ายเงิน พอประกันตัวออกมาก็รอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเรียกไปสอบปากคำ แต่ก็หายเงียบไปนานกว่า 7 ปี ตนคิดว่าคงไม่มีอะไรแล้ว กระทั่งไม่กี่วันก่อนพนักงานสอบสวนได้โทรมาหา และพูดเรื่องเงิน 100,000 บาท
คุณแฮ็ค บอกว่า ที่มาร้องในวันนี้ถ้าเราไม่รู้ในเรื่องกฎหมาย และเขามาขอเงินเรื่อย ๆ ก็จะต้องเป็นหนี้ จะต้องเป็นทุกข์แบบนี้ไปจนถึงอายุความ 20 ปีหรือไม่ ที่ผ่านมาตำรวจไม่เคยเรียกไปสอบปากคำ มาค้นอาวุธปืนที่บ้านก็ไม่มี ถึงตอนนี้ก็ยังไม่รู้เลยว่าผู้บาดเจ็บคือใคร
