จากกรณีที่นางละมุน หรือ ป้าศรี อายุ 78 ปี ถูกคนร้ายก่อเหตุฆ่าโดยการทุบและใช้ของมีคมฟันเข้าที่ใบหน้าจนเสียชีวิต ขณะกรีดยางในสวนยางพารา ที่ ต.ย่านตาขาว อ.ย่านตาขาว จ.ตรัง จนมีคนไปพบเป็นร่างช่วงเช้ามืดวานนี้ (16 ม.ค.66) โดยตำรวจได้ควบคุมตัว นางนี (นามสมมติ) อายุ 71 ปี ผู้ต้องสงสัย ซึ่งเพื่อนบ้านและลูกหนี้ของป้าศรีไปสอบปากคำ เบื้องต้นให้การปฏิเสธมาตลอด
ล่าสุด ผู้สื่อข่าวรายงานวันนี้ (17 ม.ค.66) ว่า ตำรวจ สภ.ย่านตาขาว สอบปากคำนางนีนานกว่า 8 ชั่วโมง ก่อนจะให้ กำนัน ต.ย่านตาขาว เข้ามาพูดคุยจนนางนียอมรับสารภาพว่าเป็นผู้ลงมือฆ่าป้าศรี และให้การว่าได้ไปยืมเงินของป้าศรีบ่อยครั้ง ครั้งละประมาณ 200-300 บาท รวมเป็นเงิน 5,500 บาท ตลอด 1 ปี ที่ผ่านมา ไม่ได้ใช้คืนป้าศรี
“ป้าศรีตามทวงหนี้บ่อยครั้ง รวมทั้งยังนำเรื่องติดหนี้พูดกับเพื่อนบ้าน ว่าตนไปยืมเงินแล้วไม่คืน จึงเกิดโมโหและโกรธแค้น เลยวางแผนออกไปที่สวนยางพาราของป้าศรี พร้อมกับถือมีดกรีดยางไป 1 เล่ม อ้างว่าจะไปกรีดยาง เมื่อเห็นป้าศรีกรีดยางอย่า จึงตรงเข้าทำร้ายร่างกายด้วยความแค้น หวังแค่จะตักเตือน ไม่ให้นำเรื่องที่ติดหนี้ไปบอกคนอื่น โดยใช้แค่หมัด ศอก และสิ่งของที่หยิบจับได้บริเวณนั้นลงมือก่อเหตุ ก่อนจะกลับมาทำลายหลักฐานในที่เกิดเหตุ จนมาถูกตำรวจจับกุมตัว” นางอารมณ์ กล่าว
เบื้องต้นตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อในคำให้การของนางอารมณ์ ว่าไม่มีการใช้อาวุธ เนื่องจากตรวจสภาพบาดแผลที่ใบหน้าของผู้เสียชีวิตแล้ว พบว่าบาดแผลถูกของมีคมเป็นแผลเรียบ ซึ่งต้องเกิดจากการใช้อาวุธอย่างแน่นอน
พ.ต.อ.พูนศักดิ์ เซ็งแซ่ ผกก.สภ.ย่านตาขาว กล่าวว่า หลังเกิดเหตุตำรวจได้เก็บวัตถุพยานหลักฐานในที่เกิดเกือบจะได้ทั้งหมด และหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์เกือบทั้งหมด บ่งชี้ว่าผู้ต้องสงสัยเป็นคนก่อเหตุจริง แต่ยังคงไม่ปฏิเสธนานหลายชั่วโมง จนกระทั่งยอมจำนนและรับสารภาพในที่สุด
ขณะที่ นางบำเพ็ญ นิรันรัตน์ อายุ 75 ปี น้องสาวป้าศรี ผู้เสียชีวิต กล่าวว่า ที่ผ่านมาทราบมาผู้ก่อเหตุมายืมเงินป้าศรีหลายครั้ง ครั้งประมาณ 200-300 บาท แต่ไม่เคยได้เงินคืนกลับ แต่ช่วงหลังๆป้าศรีก็ไม่ได้ให้ เนื่องจากผู้ก่อเหตุติดหนี้เก่าและยังไม่เคยให้คืน จนอาจทำให้ผู้ก่อเหตุโกรธแค้น
“ที่ผ่านมานางอารมณ์เคยนำทองปลอมมาจำนำไว้กับป้าศรี แต่ป้าศรีมารู้ที่หลัง โดยป้าศรีให้ความช่วยเหลือ ให้ข้าวให้น้ำนางอารมณ์มาตลอด หลังจากรู้ว่าคนก่อเหตุเป็นคนที่ฆ่าคนที่มีพระคุณ รู้สึกเสียใจ ไม่น่าจะกระทำกันได้เช่นนี้” นางบำเพ็ญ กล่าว
จากการตรวจประวัติอาชญากรนางอารมณ์ ทราบว่าเคยต้องโทษในคดีครอบครองและจำหน่ายยาเสพติด จำนวน 30 เม็ด ถูกจำคุกอยู่ 5 ปี และพ้นโทษออกมาเมื่อช่วงปี 2545 โดยทางตำรวจได้นำตัวไปสอบปากคำเพิ่มเติม และอยู่ในระหว่างส่งสำนวนขอศาลอนุติออกหมายจับดำเนินคดีตามกฎหมายในข้อกล่าวหา ฆ่าผู้อื่นตายโดยเจตนาต่อไป
