วัยรุ่นต่อยเด็ก ม.ต้น กระดูกร้าว ลั่นแค่หมั่นไส้

วัยรุ่นต่อยเด็ก ม.ต้น กระดูกร้าว ลั่นแค่หมั่นไส้

View icon 1.6K
วันที่ 23 ม.ค. 2566 | 17.00 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
วัยรุ่นต่อยเด็ก ม.ต้น กระดูกร้าว ลั่นแค่หมั่นไส้ ตำรวจเร่งล่าคนที่ยังหลบหนี พ่อลั่นคนทำต้องมารับผิด

วัยรุ่นทำร้ายเด็ก ม.ต้น วันนี้(23 ม.ค.2566) ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่จุดเกิดเหตุ ปากซอยสมเด็จเจ้าพระยา9 แขวงปากคลองสาน เขตปากคลองสาน กรุงเทพมหานคร เพื่อติดตามกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง เผยแพร่ ภาพเหตุการณ์และข้อความว่า "คนทำผิดต้องรับโทษ กระดูกใต้ตาหัก​ กระดูกโหนกแก้มแตก หมอศัลยกรรมยืนยันว่าต้องผ่าหรือไม่ หมอนิติเวชยืนยัน อาวุธที่ใช้" และเป็นภาพนิ่ง เด็กนักเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนต้น ถูกทำร้ายร่างกายที่ใบหน้าจนบาดเจ็บ นอกจากนี้ ผู้โพสต์ยังปล่อยภาพวงจรปิดชาย 2 คน ที่ทำร้ายเด็กนักเรียนดังกล่าว อีก 2 คน หลังเดินลงจากรถประจำทาง และกลุ่มวัยรุ่นที่แต่งกายคล้ายเด็กอาชีวะ เดินตามไปก่อเหตุชกต่อยและทำร้ายเด็ก ม.ต้นทั้ง 2 คน

โดยในจุดเกิดเหตุ เป็นป้ายรถประจำทาง อยู่ด้านหน้าร้านซ่อมรถจักรยานยนต์พบกับ นายธีรภัทร บุญตวง อายุ 46 ปี ซึ่งเป็นเจ้าของร้าน เปิดเผยว่า วันนั้นผมไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ เหตุเกิดประมาณ 17.15 น. ในภาพวงจรปิดที่ร้านเห็นแต่ตอนรถเมล์จอดแล้วเด็กลงจากรถ ก็จะเห็นตามภาพคือผู้ก่อเหตุเดินตามหลังมา 2 คน แล้วก็หลุดออกหน้าจอไปพอไม่เกินประมาณสัก 10 นาทีเด็ก 2 คนนี้ก็เดินถอยหลังกลับมา คาดว่าคงจะทำร้ายร่างกายกันแล้ว ส่วนตัวไม่เห็นตอนก่อเหตุ เพราะไปรับลูกกับภรรยา แต่ดูจากกล้องเวลาที่เกิดเหตุจริง ๆ ประมาณ 17.17 น. ส่วนน้องคนที่ถูกทำร้าย เขาก็ไม่เป็นเด็กเกเรหรือก้าวร้าวอะไร เขาเป็นเด็ก ม.ต้น ส่วนเด็ก 2 คนนั้นน่าจะเป็นเด็กช่าง

ขณะที่นายพงศพัศ กตคุณวิสิทธิ์ อายุ 43 ปี เจ้าของโพสต์ กล่าวว่า วันที่เกิดเหตุได้รับโทรศัพท์จากลูกสาวว่าพี่ชายนั้นถูกทำร้าย โดยระหว่างทางที่ไปโรงพยาบาลก็ได้รับโทรศัพท์ติดต่อโดยตลอด ว่าตอนนี้ตำรวจได้ให้เด็กชายไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลตากสิน ก่อนที่จะถูกส่งตัวย้ายไปที่โรงพยาบาลกลาง โดยโรงพยาบาลแจ้งว่าตอนนี้กำลังเอกซเรย์สมองของน้อง อาการบาดเจ็บเบื้องต้นกระดูกใต้ตาหัก กระดูกโหนกแก้มแตก ข้อมือมีอาการปวดบวมฟกช้ำ มีอาจารย์จากโรงเรียนมาติดตามอาการ หลังเกิดเหตุได้ไปติดต่อร้านจักรยานยนต์เพื่อขอภาพกล้องวงจรปิดเพิ่มเติมซึ่งก็ได้ภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยพบผู้ต้องสงสัยลงรถเมล์ตามน้องมาก่อนจะเข้าทำร้ายน้อง และเดินหลบหนีไป

นายพงศพัศ กล่าวอีกว่า วิถีชีวิตของลูกผู้ชาย เรื่องชกต่อยมันเป็นเรื่องปกติ แต่ลูกเราเป็นเด็กเรียนมันไม่ใช่ ถ้ามีเหตุโกรธเคืองกันมาก่อนจะไม่รู้สึกอะไรมากนัก ซึ่งหลังเกิดเหตุตำรวจสามารถควบคุมตัวคนก่อเหตุได้หนึ่งคน จากการสอบถามที่ทำไปเพราะด้วยความหมั่นไส้เพียงเท่านั้น ส่วนผู้ก่อเหตุอีกคนก็อยากจะฝากว่าให้เข้ามามอบตัว กล้าทำก็กล้ารับ ออกมารับผิดชอบกับสิ่งที่เกิดขึ้น ถ้าเป็นคุณถ้าโดนรังแกแบบนี้คุณจะยอมไหม

สำหรับเด็กนักเรียน ม.ต้น ผู้เสียหาย ยังคงพักรักษาตัวที่โรงพยาบาล ส่วนผู้ก่อเหตุนั้น ตำรวจ สน.บุปผาราม กำลังติดตามจับกุมผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมาย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง