กองกำลังไม่ทราบฝ่าย เผาสถานที่ราชการในเมืองพญาตองซู ห่างจากบ้านพระเจดีย์สามองค์ 800 เมตร

กองกำลังไม่ทราบฝ่าย เผาสถานที่ราชการในเมืองพญาตองซู ห่างจากบ้านพระเจดีย์สามองค์ 800 เมตร

View icon 478
วันที่ 24 ม.ค. 2566 | 08.00 น.
ข่าวช่อง7HD
แชร์
กองกำลังไม่ทราบฝ่าย เผาสถานที่ราชการในเมืองพญาตองซู ห่างจากบ้านพระเจดีย์สามองค์ 800 เมตร เสียงระเบิดและปืนดังเป็นระยะ ขณะที่ ทหาร ฉก.ลาดหญ้า เตรียมพร้อมรับสถานการณ์

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลาประมาณ 22.00 น. ของวันที่ 23 ม.ค.66 ได้เกิดเหตุกองกำลังไม่ทราบฝ่ายได้ทำการเผาสถานที่ราชการในเมืองพญาตองซู ประเทศเมียนมา ซึ่งอยู่ตรงข้ามบ้านพระเจดีย์สามองค์ จำนวนทั้งหมด 5 แห่งด้วยกัน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นสถานที่ราชการพลเรือน เช่น ที่ดินอำเภอ การคมนาคม ทหารสื่อสาร โดยเบื้องต้นยังไม่มีรายงานความเสียหาย รวมทั้งผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตออกมา นอกจากนี้ยังมีเสียงปืน และระเบิดดังอยู่เป็นระยะๆ

ขณะที่ นายสุทธิพร ศิวเวทพิกุล นายอำเภอสังขละบุรี ได้มอบหมายให้ นายดำรงรัตน์ สุภาพัฒน์ ปลัดหัวหน้าฝ่ายป้องกัน พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ อส.ลงพื้นที่บ้านพระเจดีย์สามองค์ หมู่ที่ 9 ตำบลหนองลู อำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี เพื่อติดตามสถานการณ์ และรักษาความปลอดภัยและลาดตระเวน รอบหมู่บ้าน ร่วมกับ ทหาร ตำรวจ และ ตชด. ซึ่งสถานการณ์นี้สามารถมองเห็นแสงของเปลวเพลิงได้อย่างชัดเจนจากชายแดนฝั่งไทย เนื่องจากจุดที่เกิดเหตุเพลิงเพลิงไหม้อยู่ห่างจากชายแดนไทยออกไปเพียง 800 - 900 เมตร นอกจากนี้ยังมีเสียงระเบิดและเสียงปืนดังเป็นระยะๆ ขณะที่ในเมืองพญาตองซูตกอยู่ในความเงียบ

ด้าน พันเอก ธัชเดช อาบัวรัตน์ รอง.ผบ.ฉก.ลาดหญ้า กองกำลังสุรสีห์ ได้สั่งการให้ทหารเตรียมพร้อม และคอยลาดตระเวนรักษาความปลอดภัยให้ประชาชน พร้อมขอความร่วมมือให้ประชาชนที่มาสังเกตการณ์บริเวณชายแดนด่านเจดีย์สามองค์ เดินทางออกจากพื้นที่เพื่อความปลอดภัย และให้ทหารติดตามรายงานสถานการณ์อย่างใกล้ชิด

ล่าสุด ได้รับจากแหล่งข่าวว่า ทมม.พัน.284 ได้ทำการยิงเครื่องยิงลูกระเบิดหนัก ขนาด 82 มม. เข้ามายัง ตลาด อ.พญาตองซู จุดที่ 1 คาดว่าเป็นที่ว่าการอำเภอ อ.พญาตองซู โดยฝั่งไทยมองเห็นแสงจากเปลวเพลิงที่ลุกท่วมสูงกว่าตึก 6 ชั้น และเสียงปืนใหญ่ยังคงยิงต่อเนื่องตลอดเวลา ขณะที่ทหารไทยเตรียมพร้อมรับสถานการณ์ หากมีประชาชนชาวเมียนมาอพยพหนีตายเข้ามายังฝั่งไทย ก็จะทำการช่วยเหลือให้ที่พักพิงตามหลักมนุษยธรรมต่อไป