ข่าวภาคค่ำ - ไม่ถึง 1 เดือน กับความอื้อฉาว ปมเรียกรับส่วยในกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ตำรวจ ปปป. สามารถสรุปสำนวนส่ง ป.ป.ช. แล้ว ดำเนินคดีใครบ้าง และมั่นใจในพยานหลักฐานแค่ไหน คุณสุธาทิพย์ ผาสุข มีรายงานความคืบหน้าในคอลัมน์หมายเลข 7
เป็นคำยืนยันจาก นาย ศรชัย ชูวิเชียร ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. ถึงขั้นตอน หลังรับสำนวนจากตำรวจ ปปป. มาเดินหน้าต่อ ให้คำมั่นใช้เวลาไม่เกิน 180 วัน ไล่ตั้งแต่การตั้งคณะกรรมการไต่สวนข้อเท็จจริง ไปจนถึงการพิจารณา ว่าจะต้องสอบสวนเพิ่มเติมหรือไม่ แต่กว่าจะชี้มูลคดีได้ อาจต้องใช้เวลาโดยรวมไม่เกิน 1 ปี
ขณะที่ความเคลื่อนไหวของ นาย ชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 9 จังหวัดอุบลราชธานี พยานปากสำคัญ ที่ออกมาเปิดเผยเรื่องการทุจริตเรียกรับเงินผู้ใต้บังคับบัญชา ของอดีตอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติฯ จนนำไปสู่การจับกุม พร้อมของกลางเป็นเงินเกือบ 5 ล้านบาท ล่าสุด ก็ได้เข้าให้ปากคำกับ ป.ป.ช. พร้อมทั้งเรียกร้องให้เร่งสรุปสำนวนส่งฟ้องศาลภายใน 30 วัน เพราะว่าเจ้าหน้าที่หลายคนถูกคุกคาม และยังถูกเรียกเก็บเงินอยู่
สำหรับคดีนี้ ตำรวจ ปปป. เรียกสอบพยานทั้งหมด 36 ปาก แบ่งเป็น พยานกลุ่มที่มาของเงินล่อซื้อ 98,000 บาท 17 คน พยานที่ได้รับผลกระทบจากการจ่ายเงินวิ่งเต้นโยกย้าย 5 คน และพยานที่มีรายชื่อบนซองเงินของกลาง 14 คน ซึ่งในจำนวนนี้ ยังไม่มาให้การ 1 คน
แต่ว่าทางตำรวจก็มั่นใจ ยืนยันว่าพยานหลักฐานที่มีอยู่ จะสามารถเอาผิดได้ และไม่แน่ว่าคดีนี้ อาจจะมีใครที่ใหญ่กว่าอดีตอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติฯ อีกด้วย
ส่วนความคืบหน้าแนวทางการสอบสวนทางวินัย ซึ่งมีการตั้งคณะกรรมการ 2 ชุด เข้าไปตรวจสอบ เวลานี้ก็มีบทสัมภาษณ์ให้ความมั่นใจว่าเดินหน้าเต็มที่ ไร้การแทรกแซงอย่างแน่นอน
ท่ามกลางเสียงยืนยันจากผู้บริหารกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ที่บอกว่าไม่ได้นิ่งนอนใจกับเรื่องอื้อฉาวที่เกิดขึ้น ก็ยังมีความเคลื่อนไหวกระทุ้งไปยังผู้บริหาร ทั้งปลัดกระทรวงและรัฐมนตรีฯ ว่า ควรต้องแสดงความรับผิดชอบต่อปัญหาที่เกิดขึ้นด้วย ไม่ใช่ทำเหมือนทองไม่รู้ร้อน
เรื่องอื้อฉาวในกรมอุทยานแห่งชาติฯ จะจบลงแค่นี้ หรือความจริงยังมีอีกหลายเรื่องที่ต้องขุดคุ้ย ยังเป็นเรื่องที่ต้องเกาะติด เพราะเมื่อไหร่ก็ตามที่สังคมไม่จับจ้อง ฝุ่นที่คลุ้งอยู่อาจถูกซุกไว้ใต้พรม
