สนามข่าว 7 สี - แม่ของนักเรียนชายชั้น ม.3 ร้องสื่อ หลังลูกชาย ซึ่งเป็นเด็กสมาธิสั้น ถูกกลุ่มวัยรุ่นต่างสถาบันรุมทำร้ายจนม้ามฉีก ทั้งที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน ผ่านมาเกือบ 1 สัปดาห์ ตำรวจยังจับตัวผู้ก่อเหตุไม่ได้ หนำซ้ำกลุ่มผู้ก่อเหตุยังเหิมเกริมข่มขู่ตามล่าตัว จึงยิ่งหวาดวิตกว่าชีวิตของลูกชายจะไม่ปลอดภัย
หญิงอายุ 35 ปี ร้องทุกข์ว่าลูกชายอายุ 15 ปี ซึ่งมีอาการสมาธิสั้น และเรียนอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ของโรงเรียนแห่งหนึ่งในจังหวัดนนทบุรี ได้ถูกกลุ่มวัยรุ่น ซึ่งเป็นนักเรียนต่างสถาบัน รุมทำร้ายจนได้รับบาดเจ็บสาหัส ม้ามฉีก เบ้าตาขวาถูกด้ามปืนตีจนบวม ต้องนอนรักษาตัวในโรงพยาบาลนานเกือบ 1 สัปดาห์ ซึ่งได้เข้าแจ้งความไว้ที่ สภ.ปากเกร็ด แล้ว แต่เกรงว่าคดีจะไม่มีความคืบหน้า จึงต้องร้องเรียนต่อสื่อมวลชนเพื่อขอความเป็นธรรม
โดยน้องที่ถูกทำร้าย เล่าว่า เหตุเกิดเมื่อช่วงเย็นวันที่ 17 มกราคมที่ผ่านมา ขณะที่ตนเองและเพื่อนอีก 2-3 คน ได้พาเพื่อนนักเรียนหญิงต่างสถาบันไปเดินเที่ยวบริเวณริมเขื่อนท่าน้ำหัวถนนปากเกร็ด จู่ ๆ ก็มีกลุ่มวัยรุ่น 6 คน ซึ่งเรียนอยู่โรงเรียนเดียวกับเพื่อนนักเรียนหญิง เดินเข้ามาถามว่ามาทำอะไร พอตนตอบไปว่ามาเดินเที่ยว
หนึ่งในกลุ่มวัยรุ่นก็ตะโกนใส่ตนว่า "มึงโจ๋หรือ" จากนั้นกลุ่มวัยรุ่นก็ลากตนไปที่ศาลาริมน้ำ แล้วใช้ด้ามปืนตบเข้าที่เบ้าตาข้างขวาอย่างแรง ก่อนจะช่วยกันรุมทำร้าย และกระทืบจนตนแทบสลบ จากนั้นพาซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ คุมตัวไว้ที่หมู่บ้านย่านวัดกู้ นานกว่า 1 ชั่วโมง กระทั่งพ่อของตนทราบเรื่อง จึงรีบมารับตัวพาส่งโรงพยาบาล ยืนยันว่าไม่เคยรู้จักกับกลุ่มผู้ก่อเหตุมาก่อน ไม่เข้าใจว่าเหตุใดจึงต้องมาทำร้ายตนจนบาดเจ็บหนักขนาดนี้
เมื่อวานนี้ ทีมข่าวจึงเดินทางไปสอบถามเรื่องนี้กับผู้บริหารโรงเรียนของกลุ่มวัยรุ่นคู่กรณี ซึ่งชี้แจงว่าทางโรงเรียนไม่ได้นิ่งนอนใจ โดยในวันเกิดเหตุ หลังจากที่อาจารย์ฝ่ายปกครองทราบเรื่อง ก็ได้รีบไปยังจุดเกิดเหตุทันที แต่ไม่พบผู้บาดเจ็บ ส่วนนักเรียนที่ก่อเหตุนั้น ทราบชื่อแล้วทั้ง 4 คน ส่วนอีก 2 คน เป็นรุ่นพี่ที่ลาออกไปแล้ว ซึ่งได้เรียกผู้ปกครองของเด็กมาพูดคุยแล้ว ตอนนี้กำลังรอให้ทางฝั่งผู้เสียหาย หรือตำรวจติดต่อมา ซึ่งทางโรงเรียนพร้อมให้ข้อมูลและความร่วมมือเต็มที่ ส่วนมาตรการลงโทษนักเรียนที่กระทำผิด ทางโรงเรียนทำได้เพียงว่ากล่าวตักเตือน หรือให้เรียนออนไลน์ที่บ้าน
ล่าสุด แม่ของนักเรียนที่ถูกทำร้าย ร้องเรียนเพิ่มเติมว่า กลุ่มผู้ก่อเหตุดูเหมือนจะยังไม่สำนึกผิด เนื่องจากเพื่อนของลูกชายบอกกับเธอว่า มีเพื่อนรุ่นพี่ซึ่งรู้จักกับกลุ่มผู้ก่อเหตุ ส่งแช็ตมาเตือนว่า ให้ลูกชายของเธอระวังตัวให้ดี เพราะคู่กรณีจะตามล่า ทำให้เธอเป็นห่วงลูก จนต้องส่งไปอยู่กับญาติที่ต่างจังหวัดชั่วคราวเพื่อความปลอดภัย และอยากให้ตำรวจเร่งจับกุมตัวกลุ่มผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็ว
