ผู้รอดชีวิตรายเดียวบนรถตู้  นอนผวา! ได้กลิ่นไหม้ เตรียมบวชอุทิศส่วนกุศลให้ผู้เสียชีวิต 11 คน ด้านตำรวจเร่งหาหลักฐานเพิ่ม สรุปสาเหตุอุบัติเหตุ

ผู้รอดชีวิตรายเดียวบนรถตู้ นอนผวา! ได้กลิ่นไหม้ เตรียมบวชอุทิศส่วนกุศลให้ผู้เสียชีวิต 11 คน ด้านตำรวจเร่งหาหลักฐานเพิ่ม สรุปสาเหตุอุบัติเหตุ

View icon 1.4K
วันที่ 25 ม.ค. 2566 | 10.35 น.
ข่าวในประเทศ
แชร์
ผู้รอดชีวิตรายเดียวบนรถตู้  นอนผวา! ได้กลิ่นไหม้ เตรียมบวชอุทิศส่วนกุศลให้ผู้เสียชีวิต 11 คน ด้านตำรวจเร่งสืบสวนหาหลักฐานจากกล้องวงจรปิด และกล้องหน้ารถ หาสาเหตุการเกิดอุบัติเหตุ

ผู้รอดชีวิตรายเดียวบนรถตู้  นอนผวา! ได้กลิ่นไหม้ (25 ม.ค.66 ) ผู้สื่อข่าวได้สอบถามความคืบหน้าของคดีไปยัง พ.ต.อ.ยงยศ พลเดช ผกก.สภ.สีคิ้ว ทราบว่าขณะนี้ยังไม่สามารถสรุปสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุในครั้งนี้ ว่าเกิดจากคนขับ หรือเกิดจากมีรถของบุคลที่ 3 ที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุในครั้งนี้ โดยเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาทาง พล.ต.ต.บุญชัย  ฤาชัยสา ผบก.ศพฐ.3 พร้อมเจ้าหน้าที่ พฐ.ภาค 3 ลงพื้นที่ตรวจสอบซากรถตู้อีกครั้ง เพื่อหาสาเหตุของการเกิดเพลิงไหม้จนทำให้มีผู้เสียชีวิตภายในรถตู้ถึง 11 คน ซึ่งจากการลงพื้นที่ของทาง พฐ.ภาค 3 พบว่าบริเวณถังน้ำมันมีรอยรั่วซึ่งเกิดจากรถตู้ได้พุ่งชนกับการ์ดเรลแล้วลอยขึ้น จนทำให้ถังน้ำมันไปกระแทกกับเสาของการ์ดเรล จนทำให้เกิดรอยรั่วทำให้น้ำมันไหลออกมาติดกับประกายไฟ ที่เกิดจากการที่รถตู้ เสียดสีกับการ์ดเรลจนเกิดเพลิงไหม้ในที่สุด

ซึ่งขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเองก็เร่งหาหลักฐานกล้องวงจรปิด และกล้องหน้ารถของประชาชนที่ผ่านในช่วงเวลาเกิดเหตุ พร้อมกับมีการสอบปากคำพยานที่อยู่ในเหตุการณ์ ในคืนวันเกิดเหตุเพื่อสืบสวนหาสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุในครั้งนี้ ซึ่งจากการสอบปากคำพยานที่อยู่ในเหตุการณ์ก็ยังไม่มีใครทราบถึงสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุ จึงทำให้ตอนนี้ยังไม่สามารถสรุปสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุในครั้งนี้ได้  ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ยังคงเร่งหาหลักฐานเพิ่มเติม เนื่องจากคดีนี้เป็นคดีที่มีผู้เสียชีวิตถึง 11 คน  และเป็นที่สนใจของประชาชนจึงจำเป็นต้องสืบสวนหาหลักฐานเพื่อความรัดกุมในสำนวนและเพื่อความเป็นธรรมของญาติคนขับและญาติของผู้เสียชีวิต ดังนั้นขอประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนที่ขับรถผ่านในช่วงเวลาเกิดเหตุและมีกล้องหน้าหรือหลังรถที่บันทึกภาพเหตุการณ์เอาไว้ได้อยากให้นำมาให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สีคิ้วเพื่อใช้เป็นหลักฐานในการสืบสวนต่อไป

ขณะที่ผู้สื่อข่าวได้สอบถามไปยังนางศิริจันทร์  อัสศวภูมิ แม่ของนายธนชิตผู้รอดชีวิตเพียงคนเดียวทราบว่า นายธนชิต ได้เดินทางกลับไปอาศัยอยู่กับพ่อที่จังหวัดอุบลราชธานีและเตรียมตัวบวชเพื่ออุทิศส่วนกุศลให้กับผู้เสียชีวิตทั้ง 11 คน

ซึ่งนางศิริจันทร์  ยังเล่าว่า  หลังจากเกิดเหตุน้องได้กลิ่นไหม้อยู่ตลอด และมีอาการนอนไม่ค่อยหลับในช่วงแรกที่กลับมาจากจังหวัดนครราชสีมา ซึ่งตัวน้องเองก็รู้สึกสลดใจและเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยภาพเหตุการณ์วันนั้นยังติดตาและติดอยู่ในใจตลอด ทั้งภาพขณะเกิดเหตุไฟกำลังลุกไหม้  เสียงคนในรถทั้งเด็กและผู้ใหญ่ร้องโหยหวนด้วยความเจ็บปวด แต่น้องเองก็ไม่สามารถช่วยอะไรได้เลย  จึงอยากจะบวชเพื่ออุทิศส่วนกุศลให้ผู้เสียชีวิตทั้งหมด  โดยพิธีอุปสมบทจะจัดขึ้นหลังจากที่ญาติผู้เสียทั้งหมด ประกอบพิธีทางศาสนาคือการฌาปนกิจครบทุกคน และทางกฏหมายดำเนินคดีจนเสร็จสิ้น เนื่องจากญาติผู้เสียชีวิตและเจ้าของรถตู้จะร่วมเป็นเจ้าภาพในพิธีด้วย นอกจากนี้ทางครอบครัวและน้องมีความตั้งใจจะบวชให้ผู้เสียชีวิตรายละ 1 เดือน รวมถึงบวชให้ตัวน้องเองรวมเป็นทั้งหมด 12 เดือน โดยวัดที่จะประกอบพิธีอุปสมบทคุณพ่ออยากจะให้บวชวัดในพื้นที่ภูมิลำเนาคือวัดหนองเมือง อำเภอม่วงสามสิบ จังหวัด อุบลราชธานี