ดาราสาวไต้หวันเที่ยวไทย อ้างถูก ตร.รีดไถเงิน 20,000 บาท

View icon 20
วันที่ 26 ม.ค. 2566 | 05.09 น.
เช้าข่าว 7 สี
แชร์
เช้าข่าว 7 สี - ยังมีอีกกรณีที่พาดพิงตำรวจอีกแล้วคุณผู้ชม คราวนี้เป็นเหตุการณ์เมื่อต้นเดือน เมื่อดาราสาวไต้หวัน รีวิวเที่ยวไทย โดยอ้างว่าก่อนกลับถูกตำรวจไทยตั้งด่านขอค้นอ้างสารพัด ก่อนต้องจ่ายกว่า 20,000 บาท จึงปล่อยตัว เผยเข็ดขยาดไม่อยากมาเที่ยวไทยอีก

เรื่องนี้เกิดขึ้นและถูกพูดถึงในไต้หวันก่อนหน้านี้ และเพจหนีห่าวไต้หวัน ฉันมาแล้ว นำมาโพสต์อีกครั้ง หลังพบหลายสื่อในไต้หวันลงข่าวนี้

เรื่องเกิดขึ้นเมื่อดาราสาวไต้หวัน "อันยู๋ชิง" หรือ Charlene An โพสต์ลงอินสตาแกรม เนื้อหาระบุเมื่อวันที่ 4 มกราคม 2566 ก่อนกลับไต้หวัน 1 วัน ขณะนั่งรถแท็กซี่กับเพื่อน ๆ กลับโรงแรมราว 01.00 น. ถูกตำรวจที่ตั้งด่านเรียกหยุดรถและขอค้นตัว ค้นกระเป๋ากางเกง และกระเป๋าเงิน ถามถึงวีซา เมื่อเธอยื่นหนังสือเดินทางให้ดูเเละบอกว่าได้วีซา VOA หรือ วีซาลงตราที่สนามบินอนุญาตเข้าประเทศอย่างถูกต้องตามกฎหมาย แต่ตำรวจบอกต้องเป็นวีซาจริง ๆ เท่านั้น เธอบอกรู้สึกเหมือนพยายามยัดข้อหา

เมื่อเพื่อนถ่ายคลิปเป็นหลักฐาน และป้องกันตัว ก็ถูกให้ลบ เธออ้อนวอนเจรจาอยู่นาน เเต่ไม่เป็นผล สุดท้ายยื้ออยู่ 2 ชั่วโมง ก่อนพาเธอไปที่ลับตาคน เเล้วบอกว่า "ทั้งหมดในรถต้องจ่ายมา 27,000 บาท ถึงจะยอมปล่อย" พอเธอยอมจ่าย และได้กลับที่พัก เธอยังเล่าต่อว่า ข้าง ๆ ยังมีกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวเกาหลี เป็นผู้หญิง 5 คน ไม่รู้โดนอย่างเธอหรือไม่

ในโพสต์บอกว่า ไม่คิดว่าไปเที่ยวปีใหม่ที่ไทย จะกลายเป็นประสบการณ์ที่เลวร้ายและน่ากลัวที่สุดในชีวิต และจะไม่ไปเหยียบเมืองไทยอีก พร้อมเตือนคนไต้หวันให้ระวัง อย่าพกเงินสดติดตัวในกระเป๋าเยอะ เพราะพวกนั้นจับดูกระเป๋าเงินก่อน ให้ระวังดี ๆ เพราะพวกเขาขาดรายได้จากการท่องเที่ยวมานาน พอเปิดประเทศก็มีแต่ปัญหาแบบนี้ "รีดไถ" สุดท้ายเธอโพสต์ว่า ลาก่อน กรุงเทพห่วย ๆ

ทั้งนี้ เพจดังกล่าวยังเหน็บแนมไปถึงกรณีรถนำขบวนนักท่องเที่ยวจีนก่อนหน้านี้ด้วยว่า ปล. สงสัยไม่ได้ซื้อแพคเกจนำขบวนค่ะ ถ้าซื้อก็เสียแค่ 7,000 ปลอดภัยถึงโรงแรม

พร้อมกับแนะนำว่าที่ไทยควรหาทางแก้อย่างจริงจัง เพราะเสียชื่อเมืองแห่งการท่องเที่ยว ยุคสมัยนี้เป็นยุคโซเชียลข่าวแพร่ไว จะอ้างว่าแค่ผู้หญิงคนเดียวพูดไม่น่าเชื่อถือไม่ได้แล้ว

ทั้งนี้ ทางช่อง 7HD เห็นว่าทั้งหมดเป็นคำกล่าวอ้าง ต้องรอตรวจสอบ และการชี้แจงของทางตำรวจว่าเกิดขึ้นจริงและเป็นอย่างที่กล่าวหาหรือไม่