สาวโรงงานร้องถูกหลอกขายโทรศัพท์ และออมเงิน สูญเงินสินสอดกว่าครึ่งแสน

สาวโรงงานร้องถูกหลอกขายโทรศัพท์ และออมเงิน สูญเงินสินสอดกว่าครึ่งแสน

View icon 732
วันที่ 26 ม.ค. 2566 | 07.15 น.
ข่าวช่อง7HD
แชร์
สาวโรงงานร้องถูกหลอกขายโทรศัพท์ และออมเงิน สูญเงินสินสอดกว่าครึ่งแสน ซึ่งมีผู้เสียหาย 50-60 คน เมื่อติดต่อไปยังคู่กรณี เผย ไม่มี  ไม่หนี  และไม่จ่าย อยากได้ให้รอ
              
วันนี้( 25 ม.ค. 66 ) ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากเจ้าของเพจ  แม่จีน  จี๊ดจ๊าด  ว่ามีผู้เสียหายถูกหลอกขายโทรศัพท์ ยี่ห้อ ดัง  ราคาถูก เมื่อโอนเงินให้แล้วกลับไม่ได้รับของ แล้วยังถูกหลอกให้ออมเงิน เพื่อจะได้ดอกเบี้ยจำนวนมาก ทำให้สูญเงินซึ่งเตรียมไว้เป็นค่าสินสอด ในงานแต่งงาน กว่า 60,000  บาท  แล้วยังมีผู้เสียหายรายอื่นๆกว่า 50-60 ราย มาร้องเรียนด้วย ซึ่งรวมมูลค่าความเสียหายนับล้านบาท 
     
ผู้สื่อข่าวจึงได้ติดต่อขอไปพูดคุยด้วย โดยเจ้าของเพจ แม่จีน จี๊ดจ๊าด ก็ได้เล่าให้ฟังว่า  ได้รับเรื่องร้องเรียนมาจากผู้เสียหายว่าโดนโกง เรื่องโทรศัพท์  และเงินออม ซึ่งมีผู้เสียหาย 50-60 คน รวมเงินเสียหายที่สูญไปประมาณ 1 ล้านบาท ซึ่งทางเราก็ได้เช็กแล้วว่า คนที่ก่อเหตุนั้นเป็นคนเดียวกัน  ซึ่งที่รับร้องเรียนนั้น เนื่องจากเห็นว่าส่วนใหญ่ผู้เสียหายเป็นเด็กมัธยมต้นที่ถูกโกง ทำให้อยากที่จะช่วยเหลือ และวันนี้ก็มีผู้เสียหายอีกรายที่ยินดีจะเปิดหน้าและให้ข้อมูลด้วย
    
ด้านนางสาว น้อย อายุ 24 ปี ซึ่งเป็นสาวโรงงานแห่งหนึ่งใน จ.สมุทรสาคร และเป็นผู้เสียหายคนหนึ่งที่ถูกโกงเงินไปกว่า 60,000 บาท เล่าว่า มีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งได้โพสต์ขายโทรศัพท์ราคาถูกมาก และโพสต์ด้วยว่าของที่ร้านนั้นจะเป็นพรีออร์เดอร์ ถ้าซื้อแล้วให้รอของประมาณ 30 วัน จึงสั่งซื้อไป 3 เครื่อง และได้ทำการเช็กโปรไฟล์ของผู้ใช้เฟซบุ๊กรายนี้ก็น่าเชื่อถือมาก ไม่มีการปิดบังอะไร แล้วยังมีประวัติเคยถูกคนอื่นโกงมาด้วย ผ่านมรสุมชีวิตมากมาย จึงเชื่อว่าไม่น่าจะโกงคนอื่น โดยสั่งซื้อมาตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2565 และให้รอของ 30 วัน เพราะเป็นพรีออร์เดอร์ และเขาขอคนที่รอได้ ทำให้เชื่อใจเพราะเราไม่ได้รีบใช้ หลังจากนั้นแม่ค้าก็มีการโพสต์อีกว่า รับนายทุนออมกินดอก รายวัน รายเดือน ซึ่งเราพอจะมีเงินเก็บที่เตรียมเอาไว้จัดงานแต่งงานและเป็นสินสอด จึงได้นำไปลงทุน โดยครั้งแรกนั้นได้คืนพร้อมดอกเบี้ย จึงได้เพิ่มยอดเงินไปเรื่อยๆ แต่กลับไม่ได้คืน โดยทางแม่ค้าอ้างว่าติดปัญหาส่งของไปแล้วต้องไปเก็บเงินปลายทาง ทำให้เงินติดขัด โดยยืดระยะเวลาออกไป ซึ่งขณะนี้ผ่านมา 5 เดือนแล้ว ก็ยังไม่ได้ทั้งโทรศัพท์ 3 เครื่องที่สั่งซื้อไป และเงินที่ลงทุนออมไป รวมแล้วมากกว่าครึ่งแสน ซึ่งก็พยายามติดตามทวงถามมาตลอด แต่เขาก็บอกว่า เขาไม่มี  ไม่หนี  และไม่จ่าย แต่ยังก็ยังติดตามทวงถามทุกวัน ซึ่งก็ได้รับคำตอบว่า ให้รอ อย่างเดียว  ส่วนเงินสินสอดและเงินที่จะนำไปใช้ในงานแต่งงานก็ต้องไปกู้ยืมเขามาจัดงาน  เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2565 ที่ผ่านมา  และไม่กล้าบอกพ่อกับแม่ด้วย เพราะจำนวนเงินเยอะ  มีผู้เสียหายจำนวนมาก  มีการรวมตัวกันแล้ว ซึ่งเราไม่กล้าที่โพสต์เฟซบุ๊ก เพราะเขาขู่ว่าจะฟ้องกลับหมิ่นประมาท ซึ่งตอนนี้ผู้เสียหายทุกคนได้แจ้งความไว้แล้ว ส่วนตัวนั้นก็ได้แจ้งความไว้ซึ่งทราบว่าบางคนก็เสียหายหลักแสน ส่วนใหญ่จะอายุประมาณ 14- 15 ปี และอยากฝากบอกคนที่โกงเงินไปขอให้ช่วยคืนเงินให้ด้วย เพราะระยะเวลามันผ่านมานานแล้ว บางคนนานเป็นปีแล้ว แต่ถ้าไม่คืนก็ต้องดำเนินคดีตามกฎหมาย
    
นอกจากนี้ ได้มีผู้เสียหายอีกรายที่อยู่ในกลุ่มไลน์ที่ผู้เสียหายได้รวมกัน เป็นเด็กนักเรียนม.3  โรงเรียนแห่งหนึ่ง ในจ.หนองคาย ได้วิดีโอคอล เล่าว่า เข้าไปดูในเพจหนึ่ง ซึ่งมีการชักชวนให้มีการออมเงินเพื่อกินดอก จึงได้ลองฝากเงินเข้าไป ช่วงแรกๆฝากเงินไม่เยอะ แล้วก็ได้คืนมาพร้อมกับดอกเบี้ย จึงได้เริ่มฝากเยอะขึ้นไปเรื่อยๆจนถึงยอด 50000 บาท และทางร้านก็ทักมาส่วนตัวว่าอยากจะร่วมลงทุนทำสกินแคร์ไหม โดยลงทุนขายของและจะให้เปอร์เซ็นต์เป็นดอกเบี้ยพิเศษ จึงได้โอนเงินไปร่วมลงทุนอีก 50000 บาท รวมทั้งหมดเป็นเงิน 124000  บาท เริ่มโอนเงินไปครั้งแรกเมื่อช่วงต้นเดือนกรกฎาคม แล้วรู้ว่าเขาไม่คืนเงินก็เลยไม่แจ้งความเมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ตอนนี้ก็ยังติดต่อทางร้านได้อยู่ แต่เขาไม่ค่อยตอบ หรือตอบช้ามาก ซึ่งเขาก็บอกว่า ต้องรอตามคิว ก็ยังไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะโอนเงินคืนให้ เขาบอกว่าเมื่อถึงเวลาจะทักมาเอง ซึ่งตอนนี้ผ่านมานานแล้วก็น่าจะไม่ได้เงิน แล้วตอนนี้ทางบ้านยังไม่มีใครรู้เรื่องนอกจาก คุณอา คนเดียว ไม่อยากบอกกลัวคนอื่นจะว่า ทำได้แค่ไปแจ้งความไว้อย่างเดียวที่ สภ.หนองคาย อยากจะให้เขาโอนเงินคืน เพราะตอนที่เขาอยากลงทุนทำสกินแคร์ เราก็สงสารจึงได้โอนเงิน แต่ตอนนี้อยากขอเงินคืนเพราะเงินจำนวนนี้เป็นเงินมรดกของพ่อที่เสียชีวิตไป แล้วแบ่งกับพี่ชาย โดยตนเองได้มา 100,000 บาท ซึ่งตอนที่เอาเงินมาลงทุนก็ไม่รู้เหมือนกันว่าคิดอะไร แต่ตอนนี้อยากได้เงินคืนแล้ว 

ซึ่งไม่ใช่มีแค่ผู้เสียหายแค่ 2 รายนี้ แต่มีผู้เสียหายอีกจำนวนมาก ส่วนใหญ่จะเป็นเด็กนักเรียนที่อยากจะนำเงินมาต่อยอดเพื่ออนาคต  แต่ก็กลับมาถูกโกง  โดยผู้เสียหายทั้งหมดนั้นได้แจ้งไว้แล้วในแต่ละท้องที่ที่ตนเองอาศัยอยู่

ข่าวที่เกี่ยวข้อง