จ้างตำรวจนำขบวน นทท.สาวชาวจีน เดินทางออกจากไทยแล้ว หากถึงขั้นเป็นคดีอาญาจะใช้ช่องทางความร่วมมือทางอาญาระหว่างประเทศ ขอข้อมูลโดยไม่ให้กระทบบรรยากาศการท่องเที่ยว ลั่นดำเนินการเด็ดขาด แพ็กเกจพิเศษVVIP ผิดกฎหมาย
ความคืบหน้ากรณีตำรวจนำขบวนนักท่องเที่ยววีไอพี พล.ต.ต. อภิชาติ สุริบุญญา โฆษกกองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว เปิดเผยว่ากรณีที่มีกระแสข่าวว่าจะมีการเรียกสอบนักท่องเที่ยวสาวชาวจีน ที่ปรากฏในคลิปดังกล่าว จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่านักท่องเที่ยวสาวคนนี้ได้เดินทางออกจากประเทศไทยแล้ว อีกทั้งเรื่องดังกล่าวจนถึงปัจจุบัน ยังไม่ถึงขั้นเป็นคดีอาญา แต่หากสืบสวนเพิ่มเติมแล้วพบว่ามีความจำเป็นถึงขึ้นเป็นคดีอาญาขึ้นมาจริงๆ และมีความจำเป็นต้องขอข้อมูลจากนักท่องเที่ยวคนนี้ ก็สามารถขอความร่วมมือทางอาญาระหว่างประเทศได้ ซึ่งทางกองบัญชาการฯ จะใช้ดุลยพินิจอย่างรอบคอบที่สุด เนื่องจากไม่ต้องการให้กระทบกระเทือนภาพลักษณ์และบรรยากาศการท่องเที่ยวของไทยที่กำลังดำเนินไปในทิศทางที่ดี
ส่วนประเด็นการโพสต์ขายบริการพิเศษในการมาเที่ยวประเทศไทย ตำรวจท่องเที่ยวยืนยันว่า จะร่วมบูรณาการกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิดเพื่อดำเนินการสืบสวนหาข้อมูลอย่างจริงจัง ว่ามีกลุ่มบุคคล บริษัทห้างร้าน เว็บไซต์ หรือข้าราชการหน่วยใด สังกัดใด เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องบ้าง หากพบการกระทำความผิดจริง จะรวบรวมข้อมูลดำเนินการอย่างเด็ดขาด ไม่มีการละเว้นแน่นอน และต้องขอบคุณเบาะแสข้อมูลจากประชาชนในทุกช่องทาง ซึ่งจะทำให้การท่องเที่ยวไทยโปร่งใสและมีความเท่าเทียมมากยิ่งขึ้น
ในส่วนของความคืบหน้าการสอบข้อเท็จจริง เบื้องต้นพบว่ามีข้าราชการในสังกัดกองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้อง 2 นาย คือ รองสารวัตร กองกำกับการ 3 (รับผิดชอบสนามบินสุวรรณภูมิ) และ ผบ.หมู่ สังกัดกองกำกับการเดียวกัน ซึ่งตำรวจท่องเที่ยวจะขอชี้แจงเพียงประเด็นที่เกี่ยวข้องกับข้าราชการในสังกัด คือ เรื่องการอำนวยความสะดวกช่องทางพิเศษภายในสนามบิน ซึ่งเบื้องต้นพบว่า ผบ.หมู่ ยศ ดาบตำรวจได้รับการประสานงานมาจากเพื่อนชาวจีนคนหนึ่ง และเนื่องจากวันดังกล่าวดาบตำรวจไม่ว่าง จึงวานให้รองสารวัตรผู้ที่ปรากฎในคลิป ให้มาดำเนินการอำนวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยวคนดังกล่าวแทน อย่างไรก็ตามหากการสืบสวนสอบสวนข้อเท็จจริงเสร็จสิ้นเรียบร้อย จะชี้แจงผ่านสื่อมวลชนอีกครั้ง
สำหรับกรณีการดัดแปลงรถส่วนตัวให้คล้ายรถตำรวจเพื่อนำไปแสวงหาผลประโยชน์นั้น ตำรวจท่องเที่ยวไม่ขอชี้แจง เพราะรถนำที่ปรากฏในคลิปดังกล่าวไม่ใช่รถยนต์ในสังกัดของกองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว
