ต่อมา พ.ต.ท.ยศวัฒน์ เอกกุล สว.กก.4 บก.ปทส. พร้อมด้วย ร.ต.อ.จิรัฎฐวัฒน์ กิจรุ่งเรืองเดช รอง สว.กก.4 บก.ปทส. และชุดปฏิบัติการสืบสวนปราบปรามประจำ จ.เชียงใหม่-ฮอด, ลำพูน นำหมายค้นของศาลจังหวัดเชียงใหม่ที่ ค.22/2566ลงวันที่ 25 ม.ค. 66 เข้าทำการตรวจค้นโรงงานแปรรูปไม้ห้างหุ้นส่วนจำกัดเปี๊ยกแอนติค ตั้งอยู่ที่หมู่ 8 ต.หนองแก๋ว อ.หางดง จ.เชียงใหม่ โดยร่วมกับ ตำรวจ กก.ปพ.บก.สส.ภ.5 ตำรวจ กก.ตชด.33 ตำรวจ สภ.หางดง รวมทั้ง หน่วยป้องกันและพัฒนาป่าไม้สันป่าตอง ส่วนป้องกันรักษาป่าและควบคุมไฟป่า สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ ที่ 1 (เชียงใหม่) และฝ่ายปกครอง อ.หางดง สามารถจับกุม นายสัมฤทธิ์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 31 ปี ในฐานะบุคคลธรรมดาหุ้นส่วนผู้จัดการของห้างหุ้นส่วน ผู้มีอำนาจลงนาม และ นายอินสม (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 80 ปี ผู้รับอนุญาตตั้งโรงงานแปรรูปไม้, ผู้รับอนุญาตตั้งโรงค้าสิ่งประดิษฐ์ เครื่องใช้ หรือสิ่งอื่นใดบรรดาที่ทำด้วยไม้หวงห้าม, ผู้รับอนุญาตประกอบกิจการโรงงาน (ร.ง.4) ตามพยานหลักฐานในใบอนุญาต และแรงงานชาวเมียนมาอีก 2 คน
พร้อมตรวจยึดของกลาง เลื่อยโซ่ยนต์ พร้อมบาร์โซ่ มีความยาว 25 นิ้ว จำนวน 1 เครื่อง โดยกล่าวหาว่ากระทำความผิดตาม พ.ร.บ.เลื่อยโซ่ยนต์ ฐาน “ร่วมกันมีเลื่อยโซ่ยนต์ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่” พ.ร.บ.ศุลกากร “ร่วมกัน ช่วยซ่อนเร้น ช่วยจำหน่าย ช่วยพาเอาไปเสีย ซื้อ รับจำนำหรือรับไว้โดยประการใดซึ่งของอันตนพึงรู้ว่าเป็นของอันเนื่องด้วยความผิดมาตรา 242” พ.ร.บ.การสาธารณสุข “ฐาน “ร่วมกันประกอบกิจการที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่” พ.ร.ก.การจัดการการทำงานของคนต่างด้าว ฐาน “ร่วมกัน รับคนต่างด้าวทำงานโดยที่คนต่างด้าวไม่มีใบอนุญาตทำงานหรือให้คนต่างด้าวทำงานนอกเหนือจากที่มีสิทธิจะทำได้อันเป็นการฝ่าฝืนพระราชกำหนดนี้”
สืบเนื่องจากมีการลักลอบนำไม้ผิดกฎหมายมาแปรรูปทำเป็นเฟอร์นิเจอร์ขายและส่งออกโดยเลี่ยงศุลกากร พร้อมทั้งใช้แรงงานเมียนมาผิดกฎหมาย เบื้องต้นได้ควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.หางดง เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป