ประเด็นเด็ด 7 สี - การใช้งานระบบพร้อมเพย์มานานถึง 5 ปีแล้ว ยอดการใช้งานปีที่แล้วพุ่งทะลุ 13,000 ล้านรายการ รายละเอียดการใช้งาน และสิ่งที่ต้องเฝ้าระวังหลังจากนี้ ติดตามใน ประเด็นเด็ดเศรษฐกิจ
ประเทศไทย เริ่มใช้งานระบบพร้อมเพย์ มาตั้งแต่ปี 2560 แรก ๆ ก็สับสน ดูจะงง ๆ วุ่น ๆ แต่เดี๋ยวนี้คล่องปรื๋อ กระทั่งทำให้ยอดการใช้งานในปีที่แล้ว พุ่งสูงถึง 13,705 ล้านรายการ
จากการเปิดเผยของ บริษัท เนชั่นแนล ไอทีเอ็มเอ๊กซ์ จำกัด ผู้พัฒนาและให้บริการระบบการชำระเงิน และการโอนเงินระหว่างธนาคารของประเทศไทย เผย การใช้งานในระบบพร้อมเพย์ สูงสุด อันดับคือการ 1 โอนเงินด้วยหมายเลขบัญชีธนาคาร จำนวน 68.8% อันดับ 2 โอนเงินด้วยหมายเลขอ้างอิง จำนวน 16.3% อันดับ 3 การชำระสินค้าด้วย QR Code และใบแจ้งหนี้ จำนวน 9.3% และอันดับ 4 การเติมเงิน e-Wallet 5.7% ส่วน
ช่วงเวลาที่ประชาชน นิยมโอนเงินมากที่สุด คือ ช่วงเวลาพักเที่ยงและหลังเลิกงาน และวันทำงานจะมีการใช้งานมากกว่าวันหยุดและวันหยุดนักขัตฤกษ์ และในช่วงสิ้นเดือน จะมีการทำธุรกรรมสูงมากกว่าปกติด้วย
มาดูสถิติล่าสุด เมื่อสิ้นเดือนธันวาคม 2565 มีจำนวนบุคคลธรรมดาลงทะเบียน PromptPay อยู่ 66.94 ล้านเลขหมาย แบ่งเป็นการลงทะเบียนด้วยหมายเลขบัตรประจำตัวประชาชน 39.47 ล้านเลขหมาย และลงทะเบียนด้วยหมายเลขโทรศัพทร์ 27.47 ล้านเลขหมาย นอกจากบุคคลธรรมดาแล้ว ยังมีนิติบุคคลที่ลงทะเบียน PromptPay อีก 2.43 แสนราย
และยังพบว่า เฉพาะเดือนธันวาคม 2565 การใช้งานพร้อมเพย์ พุ่งทะลุ กว่า 1,475 ล้านรายการ ส่งผลให้ภาพรวมเพิ่มขึ้น 34.66% เมื่อเทียบกับเดือนธันวาคมของปีที่ผ่านมา โดยน่าแปลกใจที่ว่า ในวันพฤหัสบดีที่ 1 ธันวาคม 2565 เป็นวันที่มีการทำธุรกรรมสูงกว่า 58 ล้านรายการเลยทีเดียว เป็นสถิติสูงที่สุดตั้งแต่เปิดให้บริการมา ปริมาณการใช้งานพร้อมเพย์ยังคงมีอัตราการเติบโตและทำสถิติใหม่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง สำหรับปัจจัยสำคัญที่ทำให้บริการก้าวไปสู่ความสำเร็จ ได้แก่ การกำหนดให้เป็นโครงการระดับประเทศที่ภาครัฐ และภาคเอกชนร่วมมือกันผลักดันและกระตุ้นให้เกิดการใช้ Digital Payments อย่างรวดเร็วและแพร่หลาย รวมทั้งการวางโครงสร้างพื้นฐานของระบบที่เปิดกว้างและสามารถเชื่อมโยงกับระบบต่าง ๆ ได้ และยังมีความร่วมมือของผู้ให้บริการระบบและบริการชำระเงินในการพัฒนาระบบพร้อมเพย์
นอกจากนี้ การออกแบบบริการและนวัตกรรมต่อยอดต่างๆ ที่คำนึงถึงความต้องการของผู้ใช้งาน รวมทั้งโครงสร้างค่าธรรมเนียมที่เหมาะสมทำให้ผู้ใช้งานสามารถเข้าถึงบริการทางการเงินได้สะดวก อีกเหตุผลก็คือ การให้ความสำคัญกับการบริหารความเสี่ยงและคุ้มครองผู้บริโภคของผู้ให้บริการ
ผมมองว่า การใช้ Digital Payments อย่างแพร่หลาย และต่อเนื่อง ก็เป็นสิ่งที่ดี เพราะช่วยย่นระยะเวลาการทำธุรกรรมการเงิน หรือย่นเวลาในการทำธุรกิจได้มาก แต่อีกมุม ก็เป็นดาบ 2 คม โอนเร็ว โอนไว ต้องระวัง เพราะช่วงนี้มิจฉาชีพเองก็ทำงาน เหมือนไม่มีพักผ่อนเหมือนกัน
