รายงานพิเศษ : ข้อมูลดาราสาวไต้หวัน ไม่ตรงกับตำรวจ

View icon 188
วันที่ 27 ม.ค. 2566 | 07.10 น.
สนามข่าว 7 สี
แชร์
สนามข่าว 7 สี - เรื่องที่ดาราสาวชาวไต้หวันโพสต์อ้างถึงตำรวจไทย พยายามเรียกรับเงินกว่า 27,000 บาท ฝั่งทางตำรวจเองก็มีการตรวจสอบข้อเท็จจริงเรื่องนี้ มีการเรียกตำรวจ 6 นาย ที่ตั้งด่านในวันนั้นมาสอบสวน ผลปรากฎว่ามีข้อมูลไม่ตรงกัน ส่วนจะไม่ตรงกันอย่างไร เราจะไปลงสนามข่าวนี้กับ คุณพิธพงษ์ จตุรพิธพร

คำกล่าวอ้างของ "อันยู๋ชิง" ดาราสาวชาวไต้หวัน อ้างเรื่องที่ถูกตำรวจไทย ตั้งด่านตรวจสกัดแล้วเข้ารื้อค้นกระเป๋า ถามหาวีซา แล้วพาตัวไปรีดไถเงินกว่า 27,000 บาท เพื่อแลกกับการปล่อยตัวเป็นอิสระ ไม่ถูกดำเนินคดี กลายเป็นประเด็นร้อนแรงในโลกออนไลน์ทันที ที่ดาราสาวโพสต์เรื่องนี้ลงอินสตาแกรม ถึงขั้นบอกว่าจะไม่ขอมาประเทศไทยอีก

ข้อมูลที่เธออ้างถึง บอกช่วงเวลาเกิดเหตุราว ๆ 01.00 น. คืนวันที่ 4 มกราคม ขณะกำลังเดินทางกลับจากไปท่องเที่ยวสถานบันเทิง ย่าน RCA จะกลับโรงแรม ระหว่างเดินทางถูกตำรวจเรียกตรวจที่ด่านตรวจสกัด หน้าสถานเอกอัครราชทูตจีนฯ มีทั้งการจับค้นกระเป๋า, ถามหาวีซา ซึ่งได้แสดงวีซา VOA ไปแล้ว แต่ไม่ยอมรับ, บอกให้พาไปดำเนินคดีที่สถานีตำรวจก็ไม่ยอมไป, ทำเสียงดุใส่ ข่มขู่จนกลัว, ยื้อกันไปมานานกว่า 2 ชั่วโมง ก่อนจะพาไปที่ลับตาเพื่อเรียกเงิน และสุดท้ายก็เรียกแท็กซี่ให้พาดาราสาวกับเพื่อนกลับโรงแรม และยังเห็นมีนักท่องเที่ยวสัญชาติอื่นกำลังเจอเหตุการณ์แบบเดียวกัน

ทีมสนามข่าวลงพื้นที่ไปสำรวจจุดที่คาดว่าจะมีการตั้งด่าน ก็ได้รับข้อมูลยืนยันจากผู้ที่พบเห็นการตั้งด่าน ว่าเห็นมีการตั้งด่านจริงที่หน้าสถานเอกอัครราชทูตจีนฯ ริมถนนรัชดาภิเษก แต่เมื่อมองหาจุดอับลับตาคน กลับพบว่าจุดที่อยู่ใกล้ที่สุด อยู่ห่างจากสถานทูตออกไปไกลเกินกว่า 100 เมตร ส่วนการพูดคุยกับชาวบ้านในละแวก ก็บอกว่าไม่ค่อยเห็นตำรวจตั้งด่านแถวนี้บ่อยนัก

เมื่อได้ข้อมูลที่เต็มไปด้วยข้อสงสัย ก็ต้องไปขอคำชี้แจงกับตำรวจที่เกี่ยวข้อง ซึ่งเมื่อวานนี้ พลตำรวจตรี สำเริง สวนทอง รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ได้เรียกตำรวจ สน.ห้วยขวาง 6 นาย ซึ่งมีตั้งแต่ระดับนายสิบ ถึงนายร้อย ที่ปฏิบัติหน้าที่ตั้งด่านป้องกันเหตุอาชญากรรม คืนวันที่ 4 มกราคม มาชี้แจงข้อเท็จจริง โดยใช้เวลานานกว่า 1 ชั่วโมง

โดยตำรวจทั้ง 6 นาย ให้การตรงกันว่า เป็นการเรียกตรวจตามมาตรการป้องกันเหตุอาชญากรรมเนื่องในช่วงเทศกาลปีใหม่ โดยรถแท็กซี่ได้พานักท่องเที่ยวกลุ่มหนึ่งผ่านเส้นทางมา ที่บริเวณหน้าสถานทูตจีน จึงเรียกจอดเพื่อตรวจดูสิ่งผิดกฎหมายตามปกติ และพบดาราสาวสภาพมึนเมาอยู่ภายในรถ อ้างว่าไม่ได้พกหนังสือเดินทางมา จะเรียกเพื่อนนำมาแสดงแต่ก็ไม่มีใครมา ประกอบกับสื่อสารคนละภาษา ทำให้พูดคุยกันลำบาก ส่วนเรื่องรื้อกระเป๋าเป็นการขอให้เปิดเพื่อดูสิ่งผิดกฎหมาย โดยที่ตำรวจไม่ได้ลงมือค้น ส่วนที่พบว่าผิดกฎหมาย คือ บุหรี่ไฟฟ้าในมือของเจ้าตัว ซึ่งมีการว่ากล่าวตักเตือนให้ระวัง ก่อนจะปล่อยตัวทั้งหมดไป โดยไม่ได้ดำเนินคดี และยืนยันว่าไม่มีการเรียกรับเงินตามที่อ้างถึงแต่อย่างใด

เรื่องนี้สอดคล้องกับภาพกล้องวงจรปิดของกรุงเทพมหานคร ที่พบรถแท็กซี่คันที่ดาราสาวโดยสารขับเข้าไปจอดเทียบในด่าน ก่อนจะไปจอดข้างทางเดินเท้า มีเจ้าหน้าที่เข้าไปพูดคุยนานกว่า 1 ชั่วโมง ไม่พบมีการพาตัวบุคคลใดเข้าไปในซอยเปลี่ยว หรือออกจากด่าน ซึ่งตำรวจกำลังรวบรวมนำหลักฐานชุดนี้มาตรวจสอบ พร้อมกับจะเรียกตัวคนขับแท็กซี่มายืนยันข้อเท็จจริง ก่อนสรุปเรื่องนี้อีกครั้ง