หลานแสบหลอกตา-ยาย นำโฉนดที่ดินไปกู้เงิน ก่อนชิ่งหนี ถูกนายทุนฟ้องทวงหนี้

View icon 309
วันที่ 27 ม.ค. 2566 | 16.13 น.
ข่าวเย็นประเด็นร้อน
แชร์
ข่าวเย็นประเด็นร้อน - ประเด็นน่าสลดใจที่เกิดขึ้นในจังหวัดศรีสะเกษ เป็นเรื่องราวของ 2 ตายาย ถูกหลานสาวหลอกจอมแสบหลอกให้ไปนำโฉนดที่ดินของบ้านที่พักอาศัยอยู่นั้นไปกู้ยืมเงิน โดยตัวเองต้องการนำเงินไปลงทุนค้าขาย แต่พอได้เงินมาแล้วกลับหนีหายไป จนทำให้ถูกฟ้องร้องทวงหนี้จนศาลเรียกไกล่เกลี่ยให้ผ่อนชำระ และภาระทั้งหมดไปตกอยู่ที่คุณตาคุณยายทั้ง 2 คน

ทีมข่าวได้รับการติดต่อจาก นายภิญโญ ศรีศุภร นายกองค์การบริหารส่วนตำบลท่าคล้อ อำเภอเบญจลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ ซึ่งได้แจ้งเรื่องราวน่าสลดใจของ คุณตาสมใจ อายุ 81 ปี และ คุณยายก้าน อายุ 86 ปี โดยคุณตากับคุณยายถูกนายทุนฟ้องร้องทวงหนี้จนศาลต้องเรียกไกล่เกลี่ย และได้ตกลงจะผ่อนชำระ แต่ไม่มีเงินจะผ่อนส่ง เพราะอยู่ในวัยชราไม่สามารถทำงานหาเงินได้

ทีมข่าวจึงลงพื้นที่ไปยังบ้านพักของคุณตาและคุณยาย พร้อมด้วย นายภิญโญ ศรีศุภร นายกองค์การบริหารส่วนตำบลท่าคล้อ และนายเสถียร สิงหาเวช สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบลท่าคล้อ บ้านหนองคับคา เพื่อหาแนวทางช่วยเหลือคุณตาคุณยายทั้ง 2 คน

คุณตา เล่าว่า เมื่อปี 2559 หลานสาวได้มาหา และขอให้นำโฉนดที่ดินแปลงที่ปลูกบ้านหลังนี้ไปจำนองเพื่อกู้เงิน เพราะต้องการนำเงินไปลงทุนค้าขาย และหลานสาวก็บอกว่าจะเลี้ยงดูตนเองกับเมียด้วย

จากนั้นหลานสาวได้พาไปจำนองโฉนดที่ดิน ได้เงินไป 275,000 บาท พร้อมกับทำสัญญาว่าจะคืนเงินภายใน 1 ปี แต่พอได้เงินแล้ว หลานสาวก็หนีหายไปเลย ส่วนเงินที่กู้ยืมไปก็ไม่เคยส่งคืนให้

คุณตาเล่าอีกว่านายทุนได้ยื่นฟ้องตนและศาลนัดไกล่เกลี่ย โดยตกลงกันว่า ตนจะผ่อนชำระให้นายทุนผู้ให้กู้เดือนละ 3,500 บาท ซึ่งตนอายุมากแล้ว แถมยังพิการขาหัก 2 ท่อน ไม่ได้ทำงาน มีรายได้เป็นเบี้ยผู้สูงอายุ เดือนละ 800 บาท และเงินสงเคราะห์คนพิการอีกเดือนละ 800 บาท หากรวมกับเงินที่เมียตนได้รับเหมือนกัน ก็ตกเดือนละ 3,200 บาทเท่านั้น จึงต้องไปหยิบยืมจากญาติพี่น้อง และเอาเงินที่ได้ไปผ่อนให้นายทุนมาเป็นเวลาปีกว่าแล้ว แต่ตอนนี้ไม่มีเงินจะจ่ายค่างวดรายเดือนแล้ว จึงอยากขอวอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาช่วยเหลือด้วย

ด้าน นายภิญโญ ศรีศุภร นายกองค์การบริหารส่วนตำบลท่าคล้อ บอกว่า ได้รับแจ้งจากชาวบ้านในพื้นที่ว่า 2 ตายายกำลังเดือดร้อน ซึ่งอำนาจของ อบต. ไม่สามารถจัดสรรงบประมาณมาใช้จ่ายตรงนี้ได้ จึงได้ประสานไปตามหน่วยงานต่าง ๆ รวมถึงสื่อมวลชนเผื่อจะช่วยเหลือกันได้บ้าง เพราะตอนนี้ 2 ตายายกำลังเดือดร้อนหนัก

ข่าวที่เกี่ยวข้อง