เรื่องนี้ พลตำรวตตรี อาชยน ไกรทอง โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยข้อมูลออกมา เมื่อช่วงเช้า บอกว่า ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้สั่งการเพิ่มเติมให้ กองบัญชาการตำรวจนครบาล สั่งการ กองบังคับการสืบสวนสอบสวน ลงพื้นที่ไปหาหลักฐาน และตรวจสอบข้อเท็จจริงเพิ่ม เพื่อเร่งคลี่คลายปมสงสัยที่ว่ามีตำรวจไทยรีดไถเงินดาราสาวไต้หวัน 27,000 บาท ระหว่างเดินทางกลับที่พัก จริงหรือไม่ โดยยืนยันว่าจะไม่เข้าข้างใคร ทุกอย่างว่ากันตามข้อมูล และพยานหลักฐาน พร้อมให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย และหากพบว่าตำรวจกระทำผิดจริงก็พร้อมดำเนินการทั้งทางวินัย และอาญา
ขณะที่ นายเดชา กิตติวิทยานันท์ ทนายความ โพสต์คลิปวิดีโอลงเฟซบุ๊กส่วนตัว วิเคราะห์พิรุธ และความน่าเชื่อถือระหว่างดาราสาวไต้หวันกับตำรวจไทย ว่าที่สังคมให้น้ำหนักเชื่อ "ดาราสาว" เพราะเป็นบุคคลมีชื่อเสียง มีผู้ติดตามจำนวนมาก ไม่มีเหตุผลที่ต้องทะเลาะกับตำรวจ และประเทศไทย เว้นแต่จะมีแรงจูงใจ ส่วนที่มองว่าเป็นพิรุธ คือ เรื่องที่ตำรวจพบบุหรี่ไฟฟ้าในมือหญิงสาวแล้วไม่ดำเนินคดี และทำไมถึงไม่พบมีการรายงานเหตุการณ์นี้ให้ผู้บังคับบัญชารับทราบ
ด้าน พันตำรวจเอก ยิ่งยศ สุวรรณโณ ผู้กำกับการ สน.ห้วยขวาง เปิดเผยว่า ผลการสอบปากคำ คนขับรถ "แกร็บคาร์" ให้การเป็นประโยชน์ในระดับหนึ่ง ยังเหลือรอผลการตรวจสอบข้อมูลทางเทคนิคบางอย่าง และรอสอบปากคำพยานอีก 1-2 คน ส่วนภาพวงจรปิด สามารถรวบรวมไว้ได้ส่วนหนึ่งแล้ว เช่น ภาพจากกล้องของกรุงเทพมหานคร, สะพานลอยคนข้าม ปากซอยรัชดาภิเษก 3
ทั้งนี้มีรายงานข่าวว่า คนขับรถแท็กซี่ ที่เป็นคนรับตัวดาราสาว และกลุ่มเพื่อนไปส่งที่พัก ย่านห้วยขวาง ได้เข้าพบตำรวจเพื่อให้ข้อมูลแล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบปากคำ
ด้าน "อันยู๋ซิง" ดาราสาวไต้หวัน โพสต์ข้อความเชิงตัดท้อลงเฟซบุ๊กส่วนตัวเมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมา ทำนองว่า "ลำพังเพียงคนเดียวอาจฟังดูเหมือนโกหก แต่จะไม่เสแสร้งทำนิ่งเฉย โดยไม่ร้องเรียนใด ๆ" ซึ่งคาดว่าเป็นการพูดถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพื่อยืนยันสิ่งที่เป็นข่าวออกไป