ต่อมาได้สนธิกำลังเข้าตรวจสอบบริเวณท่าทราย หมู่ที่ 11 ต.น้ำทรง อ.พยุหะคีรี จ.นครสวรรค์ จับกุม นายวรชัย (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 54 ปี ชาว อ.พยุหะคีรี จ.นครสวรรค์ เจ้าของกิจการท่าทรายดังกล่าว พร้อมยึดของกลาง เรือเหล็กดูดทรายกลางแม่น้ำเจ้าพระยา ตะแกรงร่อนทราย พร้อมท่อเหล็ก 1 ท่อ ท่อลำเลียงทราย(ยาง) จำนวน 35 ท่อน ทุ่นแกลลอนวางท่อลำเลียงทราย จำนวน 64 ใบ และบริเวณพื้นที่เรือดูดทรายแม่น้ำ จำนวน 104.58 ตารางเมตร
เบื้องต้นแจ้งข้อกล่าวหา ตาม พ.ร.บ.โรงงาน ฐาน “ร่วมกันจัดตั้งโรงงานจำพวกที่สามโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่” พ.ร.บ.ป่าไม้ ฐาน “ร่วมกันเข้าไปยึดถือ ครอบครอง รวมตลอดถึงการก่นสร้าง หรือเผาป่า ทำด้วยประการใดให้เป็นการทำลาย หรือทำให้เสื่อมสภาพที่ดิน ที่หิน ที่กรวด หรือที่ทราย หรือทำสิ่งหนึ่งสิ่งใดอันเป็นอันตรายแก่ทรัพยากรในที่ดิน ตาม พ.ร.บ.ให้ใช้ประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ.2497 ภายใต้บังคับกฎหมายว่าด้วยการเหมืองแร่และการป่าไม้ ที่ดินของรัฐนั้น ถ้ามิได้มีสิทธิครอบครองหรือมิได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่แล้ว ห้ามมิให้ผู้ใด (1) ร่วมกันเข้าไปยึดถือ ครอบครอง รวมตลอดถึงการก่นสร้างหรือเผาป่า (2) ร่วมกันทำด้วยประการใดให้เป็นการทำลาย หรือทำให้เสื่อมสภาพที่ดิน ที่หิน ที่กรวด หรือที่ทรายในบริเวณที่รัฐมนตรีประกาศหวงห้าม ในราชกิจจานุเบกษาหรือ (3) ร่วมกันทำสิ่งหนึ่งสิ่งใดอันเป็นอันตรายแก่ทรัพยากรในที่ดิน” และ พ.ร.บ.เดินเรือในน่านน้ำไทย ฐาน “ร่วมกันขุดลอก แก้ไข หรือทำด้วยประการใดๆอันเป็นการเปลี่ยนแปลงร่องน้ำ ทางเรือเดิน แม่น้ำ ลำคลอง ทะเลสาบ หรือทะเลภายในน่านน้ำไทย”
จากการสอบถามเบื้องต้น ผู้ต้องหารับว่าลักลอบมาทำกิจการดูดทรายบริเวณดังกล่าวจริง จึงได้ทำบันทึกจับกุม ก่อนควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.พยุหะคีรี ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป