เตรียมตัว ลุ้นประกาศ! บัตรสวัสดิการแห่งรัฐใหม่ ตรวจสอบได้ 3 ช่องทาง

เตรียมตัว ลุ้นประกาศ! บัตรสวัสดิการแห่งรัฐใหม่ ตรวจสอบได้ 3 ช่องทาง

View icon 166.6K
วันที่ 30 ม.ค. 2566 | 10.22 น.
เกาะกระแสออนไลน์
แชร์
บัตรสวัสดิการแห่งรัฐใหม่ 2566 ตามกำหนดคาดว่าจะประกาศ สิ้นเดือน มกราคม 2566 เรายังต้องมาลุ้นกันว่า จะมีการประกาศผลออกมาหรือไม่ อย่างไรก็ตาม สำหรับผู้ที่ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐเก่า หรือบัตรคนจนเก่า สิทธิบัตรเดิมของกุมภาพันธ์ยังคงได้รับเหมือนเดิม ส่วนผู้ที่ลงทะเบียนโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ รอบใหม่ปี 65 กระทรวงการคลังเตรียมประกาศผลผู้มีสิทธิแล้ว

คาดว่าจะประกาศผลการตรวจสอบคุณสมบัติของผู้ลงทะเบียนได้สิ้นเดือน มกราคม 2566 นี้ โดยช่องทางที่จะตรวจสอบผลการพิจารณาคุณสมบัติได้ 3 ช่องทาง ดังนี้
1.ตรวจสอบด้วยตนเอง ผ่านเว็บไซต์ https://welfare.mof.go.th/ หรือ https://welfare.mof.go.th
2.หน่วยรับลงทะเบียนทั้ง 7 หน่วยงาน ได้แก่ ธ.ออมสิน ธ.ก.ส. ธ.กรุงไทย สำนักงานคลังจังหวัด ที่ว่าการอำเภอทุกอำเภอ สำนักงานเขตกรุงเทพมหานคร และศาลาว่าการเมืองพัทยา
3.โทรศัพท์สอบถามได้ที่ สำนักงานปลัดกระทรวงการคลัง /สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง และ Call Center โครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ
หลังจากการวันประกาศผลผู้ลงทะเบียนที่ผ่านคุณสมบัติแล้ว จะต้องไปยืนยันตัวตน ณ ธนาคารตามที่กระทรวงการคลังกำหนด จึงจะสามารถใช้สิทธิสวัสดิการผ่านบัตรประจำตัวประชาชนอเนกประสงค์ (Smart Card) ได้
สำหรับผู้ที่มีบัตรสวัสดิการฯ ณ ปัจจุบันจะสามารถใช้บัตรสวัสดิการฯ ได้จนถึงวันสุดท้ายของเดือน ก่อนเริ่มใช้สิทธิของโครงการลงทะเบียนฯ ปี 65 ได้ตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2566
ส่วนผู้ลงทะเบียนที่ไม่ผ่านเกณฑ์การพิจารณาคุณสมบัติตามโครงการลงทะเบียนฯ ปี 65 สามารถยื่นเรื่องอุทธรณ์ได้ตามวัน - เวลา และช่องทางที่กำหนด ซึ่งจะประกาศให้ทราบอีกครั้ง

ผู้ที่ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐเก่า หรือบัตรคนจนเก่า ยังคงได้รับสิทธิเหมือนเดิม กรมบัญชีกลางได้เบิกจ่ายและโอนเงินให้แก่หน่วยงานและร้านค้าที่รับชำระค่าสินค้าและบริการผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ดังนี้

ทุกวันที่ 1 ของเดือน (ไม่สามารถถอนเป็นเงินสดได้ และไม่สะสมในเดือนถัดไป)
- วงเงินซื้อสินค้า 200/300 บาทต่อเดือน
- วงเงินซื้อสินค้า ตามมาตรการช่วยเหลือเงินพิเศษ 200 บาทต่อเดือน (เฉพาะเดือนกุมภาพันธ์ 2566)
- ส่วนลดค่าซื้อก๊าซหุงต้ม 100 บาทต่อ 3 เดือน (ม.ค. - มี.ค. 66)
- ค่าใช้จ่ายในการเดินทาง ประกอบด้วย
* ค่าโดยสารรถ บขส. 500 บาทต่อเดือน
* ค่าโดยสารรถไฟ 500 บาทต่อเดือน
* ค่าโดยสารรถ ขสมก./รถไฟฟ้า (MRT/BTS/ARL) 500 บาทต่อเดือน (สำหรับผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่อาศัยอยู่ในเขต กทม. และปริมณฑล)

ทุกวันที่ 18 ของเดือน (สามารถถอนเป็นเงินสดได้ และสะสมในเดือนถัดไปได้)
- เงินชดเชยค่าไฟฟ้า ไม่เกิน 315 บาทต่อครัวเรือนต่อเดือน (สำหรับผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่ได้ลงทะเบียนกับ กฟน. กฟภ. และกิจการไฟฟ้าสวัสดิการสัมปทานกองทัพเรือ ที่ใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 315 บาทต่อเดือน)
- เงินชดเชยตามจำนวนเงินที่ชำระค่าน้ำประปา ไม่เกิน 100 บาทต่อครัวเรือนต่อเดือน (สำหรับผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ที่ได้ลงทะเบียนกับ กปน. กปภ. ที่ใช้น้ำประปาไม่เกิน 315 บาทต่อเดือน จะได้รับเงินคืนค่าน้ำประปาไม่เกิน 100 บาท (ที่ได้ชำระเงินแล้ว) ส่วนที่เกินจาก 100 บาท ผู้ถือบัตรฯ เป็นผู้ชำระเอง)

ทุกวันที่ 22 ของเดือน (สามารถถอนเป็นเงินสดได้ และสะสมในเดือนถัดไปได้)
- เงินเพิ่มเบี้ยความพิการ 200 บาทต่อเดือน (สำหรับผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ที่มีบัตรประจำตัวคนพิการและได้รับเงินเบี้ยความพิการ)

ขอบคุณข้อมูลจาก กระทรวงการคลัง

ข่าวที่เกี่ยวข้อง