ผบช.น.ขอโทษประชาชน โต้ “ชูวิทย์” ไม่เคยสั่งให้ลบคลิป มีหลักฐานให้เอาออกมา

ผบช.น.ขอโทษประชาชน โต้ “ชูวิทย์” ไม่เคยสั่งให้ลบคลิป มีหลักฐานให้เอาออกมา

View icon 330
วันที่ 30 ม.ค. 2566 | 12.22 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
ผบช.น. โต้ “ชูวิทย์” ไม่เคยสั่งให้ลบคลิป มีหลักฐานให้เอาออกมา พร้อมรวบรวมเข้าสำนวน กล้องวงจรปิดหน้าสถานทูตไฟล์ต้นฉบับอยู่กับ กทม. ลั่นถ้าปกป้องลูกน้อง ตำรวจ 6 นาย คงไม่โดน ม.157 ขอโทษ ปชช. เกิดเรื่องกระทบภาพลักษณ์และความเชื่อมั่น จนทำให้เกิดกระแสวิจารณ์ขนาดนี้

วันนี้ (30 ม.ค.66) พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยถึงกรณีที่นายชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก กรณีมีพยานบุคคลเป็นแฟนสาวกลุ่มเพื่อนดาราชาวไต้หวัน อ้างว่าเป็นคนจ่ายเงินตำรวจ 27,000 บาท ด้วยตนเอง และมีหลักฐานเป็นคลิป ว่าเรื่องนี้ตำรวจนครบาลซึ่งเป็นต้นสังกัด ไม่ได้นิ่งนอนใจในการตรวจสอบข้อเท็จจริงในเรื่องดังกล่าว ตั้งแต่มีโพสต์ข้อความของดาราสาวไต้หวันเกิดขึ้น ได้สั่งการให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องเร่งหาข้อเท็จจริงในเรื่องดังกล่าวมาโดยตลอด
   
จากการตรวจสอบเบื้องต้น ตำรวจที่ตั้งด่านตรวจ กระทำผิดฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ตามมาตรา 157 ในกรณีที่ไม่ดำเนินการแจ้งข้อกล่าวหา พกพาบุหรี่ไฟฟ้า กับดาราสาวชาวไต้หวัน

ส่วนประเด็นการเรียกรับเงิน 27,000 บาท ยังไม่ยุติการสืบสวนหรือสืบค้นหาพยานหลักฐานแต่อย่างใด ส่วนตัวไม่เคยบอกว่า ตำรวจไม่เรียกรับเงิน เพราะจนถึงขณะนี้ผลการสืบสวนและรวบรวมพยานหลักฐานที่ได้ ณ ขณะนี้ ยังไม่สามารถบ่งบอกได้ว่า ตำรวจเหล่านี้เรียกรับเงินหรือไม่ และจากการสอบปากคำตำรวจทั้งหมด ที่อยู่หน้าด่าน 6 นาย ปฏิเสธไม่ได้เรียกรับเงินตามที่ถูกกล่าวหา ซึ่งก็ยังไม่ได้เชื่อในคำให้การดังกล่าว ยังคงให้ฝ่ายสืบสวนกองบังคับการสืบสวนนครบาลลงพื้นที่รวบรวมหลักฐานเพิ่มเติม พร้อมสั่งให้เร่งประสานบุคคลที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ดังกล่าว คือ ดาราสาวไต้หวัน และเพื่อนชายอีก 3 คน เพื่อสอบปากคำ โดยขณะนี้ได้ติดต่อผ่านไปแล้ว แต่ยังไม่ได้รับการตอบรับ หากทางฝั่งดาราสาวไต้หวัน และเพื่อนชายไม่สะดวกเดินทางมาไทย ทางตำรวจก็พร้อมจะเดินทางไปหา
    
สำหรับประเด็นที่นายชูวิทย์ ออกมาโพสต์กล่าวหาว่า ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล มีคำสั่งให้ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 1 และ ผกก.สน.ห้วยขวาง ลบคลิปหน้าสถานทูตจีน และกล้องติดตัวตำรวจทิ้ง ยืนยันไม่เป็นความจริง ไม่เคยมีความคิดในเรื่องดังกล่าว เพราะไม่มีใครจะมากระทำผิดกฎหมายได้ อีกทั้งกล้องหน้าสถานทูตจีน ไฟล์ต้นฉบับอยู่ที่ กทม. ไม่ใช่กล้องตำรวจ พร้อมฝากถึงนายชูวิทย์ว่า หากมีหลักฐานก็ให้เอาออกมามอบให้ตำรวจ รวมถึงบุคคลอื่นๆ หากมีคลิปก็ให้นำออกมา พร้อมรวบรวมเข้าสู่สำนวน ส่วนตัวและผู้บังคับการตำรวจนครบาล 1 ไม่เคยมีความคิดลบคลิป หรือช่วยเหลือลูกน้องที่ทำตัวไม่ดี หากมีความคิดดังกล่าว วันนี้ตำรวจทั้ง 6 นาย คงไม่โดนมาตรา 157
    
ทั้งนี้ ผบช.น. กล่าวขอโทษประชาชน ในฐานะข้าราชการตำรวจ และเป็นผู้บังคับบัญชาของตำรวจทั้ง 6 นาย เรื่องที่เกิดขึ้นกระทบภาพลักษณ์และความเชื่อมั่นของประชาชน จนทำให้เกิดกระแสวิจารณ์จนถึงขนาดนี้
    
เมื่อผู้สื่อข่าวพยายามถามว่า ในช่วงเวลานี้ ผบช.น.กำลังตกเป็นเป้าหมาย ในการโจมตีของของนายชูวิทย์หรือไม่ พล.ต.ท.ธิติ กล่าวว่า ส่วนตัวจะไม่ขอตอบโต้ในประเด็นส่วนตัวที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง เพราะไม่ได้เกิดต่อประโยชน์สังคม และสังคมไม่ได้อยากรับรู้ในเรื่องดังกล่าว จะขอตอบในสิ่งที่สังคมเกิดคำถามเท่านั้น