ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงสายวันนี้ (30 ม.ค.66) นายแสวง บุญมี เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)เปิดเผยหลังเข้าพบและพูดคุยกับนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายกฎหมายของรัฐบาล ถึงการเตรียมการจัดการเลือกตั้ง หลังกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง และพรรคการเมืองมีผลบังคับใช้ ว่าไม่ได้มารายงานไทม์ไลน์ในการจัดการเลือกตั้ง แต่ต้องการให้เป็นตามเงื่อนไขและกฎหมาย ทั้ง กกต.และพรรคการเมือง
ส่วนจะเป็นไปตามกรอบ 45 วัน ก่อนหน้านี้หรือไม่นั้น เลขาธิการ กกต. ระบุว่า เป็นความต้องการของ กกต. แต่ในทางการเมืองจะยุบสภาหรืออยู่ครบวาระ หากไม่ได้ก็ต้องมาปรับ ส่วนหากไม่ได้ 45 วัน ก็จะทำให้ทำงานยากขึ้นในช่วงการเลือกตั้ง เพราะการเตรียมการจะยาก เพราะการเริ่มต้นไม่พร้อมกัน
“ส่วนจะมีการยุบสภาวันใดนั้น กกต. ไม่สามารถฟันธงได้เพราะเป็นผู้ปฏิบัติตามกฎหมาย วันนี้มาก็ไม่ได้คุยเรื่องยุบสภา วันนี้มาชี้แจงในส่วนที่ กกต.ต้องทำตามข้อกฎหมาย และหลังพูดคุยก็ไม่มีข้อกังวล ก็จะเดินไปตามขั้นตอนหลังประกาศใช้ของกฎหมายลูก และจะเร่งทำการแบ่งเขตเลือกตั้งให้เสร็จ เพราะทราบว่าทุกพรรคการเมืองรออยู่ และกรรมการประจำหน่วยในวันเลือกตั้ง ซึ่งบางพรรคบางคนอาจไม่ถูกใจ แต่ กกต.ยืนยันทำตามกฎหมาย” เลขาฯ กกต. ระบุ
ส่วนการลงคะแนนเสียงเลือกตั้งจะเป็นวันที่ 7 พ.ค.2566 เช่นเดิมหรือไม่ นายแสวง กล่าวว่า ไม่ทราบเพราะ วันที่ 7 พ.ค. 2566 เป็นกรณีสภาอยู่ครบวาระ 4 ปี ผู้สื่อข่าวสอบถามว่าหากมีการยุบสภาภายในวันที่ 15 มีนาคม 2566 กกต.มีความพร้อมจัดการเลือกตั้งหรือไม่ เลขาธิการ กกต. ระบุว่า กกต.ขอใช้เวลา 45 วัน ส่วนงานอื่นไม่ทราบ ส่วนจะส่งผลต่อไทม์ไลน์เลือกตั้งหรือไม่ ก็เห็นว่าแต่ละพรรคเตรียมตัวและทำไพมารี่อยู่แล้ว แต่ที่เบาลงคือไม่ต้องมีตัวแทน สาขาพรรค แสดงความเห็น ที่ต่างจากกฎหมายเก่า พร้อมยืนยันว่า ไม่ได้ยื่นเวลาช่วยพรรคการ รวมไทยสร้างชาติที่ทำร่วมกันแต่อย่างใดด้วย
มีรายงานว่า บ่ายวันนี้ กกต. จะประชุมเพื่อพิจารณาในการออกประกาศระเบียบ กกต. และระเบียบที่เกี่ยวข้องออกมารองรับ ให้สอดคล้องกับ พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง สส. และ พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง ที่มีการแก้ไขเปลี่ยนแปลง เช่น ระเบียบว่าด้วยการแบ่งเขตเลือกตั้ง ระเบียบ กกต.ว่าด้วยการเลือกตั้งฉบับใหม่แทนฉบับเดิมเมื่อปี 2561 ซึ่งจะต้องออกระเบียบให้สอดคล้องกับเขตเลือกตั้งที่เพิ่มเป็น 400 เขต จากเดิม 350 เขต
นอกจากนี้ที่ประชุม กกต.จะมีการพิจารณาถึงระบบรายงานผลการเลือกตั้ง สส. แบบเรียลไทม์ โดยต้องมีการหารือกันว่า จะใช้ระบบอะไรในการรายงานผล กกต. โดยจะใช้ประสบการณ์เรื่องการรายงานผลมาพิจารณาด้วย เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาการรายงานผลเหมือนในการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา
