สนามข่าว 7 สี - ตลอดปีที่ผ่านมา รวมถึงปีนี้ที่เพิ่งผ่านไปไม่ถึงเดือน จะเห็นข่าวเกี่ยวกับผู้เสพยาเกิดอาการหลอน ก่อคดีต่าง ๆ มากมาย จนเกิดคำถามหรือเพราะกฎหมายยาเสพติดฉบับใหม่ที่ผลบังคับใช้ เมื่อสองปีที่แล้วจะอ่อนเกินไป โดยเฉพาะการกำหนดว่าครอบครองยาบ้า 15 เม็ดขึ้นไปถือเป็นผู้ค้า ล่าสุดจะมีการเปลี่ยนนโยบายให้ครอบครองยาบ้า 2 เม็ดขึ้นไป ก็ถือเป็นผู้ค้าแล้ว
เรื่องนี้มีการถกเถียงกันตั้งแต่ปีที่แล้ว กระทั่งได้ข้อสรุปอย่างที่เรียนไปเมื่อสักครู่ ตัวละครคนสำคัญคือ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ที่ประกาศชงแก้กระทรวงปราบปรามยาเสพติด กำหนดให้ผู้ครอบครองยาบ้า 1 เม็ดเป็นผู้เสพ และผู้ครอบครองยาบ้า 2 เม็ดขึ้นไปเป็นผู้ค้า จากกฎหมายเดิมคือ ต้องครอบครอง 15 เม็ดขึ้นไปถึงจะถือว่าเป็นผู้ค้า ซึ่งทำให้ผู้ครอบครองยาบ้าเลี่ยงบาลีได้ยากขึ้น
ขณะที่ นายแพทย์มานัส โพธาภรณ์ รองอธิบดีกรมการแพทย์ ระบุว่า การแก้กฎกระทรวงในครั้งนี้ เพื่อให้การบังคับใช้กฎหมาย มีความเข้มข้นมากขึ้น มุ่งเป้าเอาผิดกับผู้ค้ายาเสพติด โดยดูจากความสุ่มเสี่ยงจากการมีไว้ในการครอบครองเป็นจำนวนมาก อีกทั้งยังมีเจตนารมณ์ให้โอกาสผู้เสพ ได้เข้าสู่การบำบัดรักษามากขึ้น เพื่อเลิกยาเสพติด
จากการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในมุมมองของนักวิชาการ เห็นว่า มีทั้งมุมบวก และมุมลบ แง่บวกคือ อาจทำให้ผู้ค้าเกิดความหวาดกลัว ราคาน่าจะพุ่งขึ้น คนอาจเสพน้อยลง ส่วนแง่ลบคือ ปัญหานักโทษล้นคุก จึงต้องมีมาตรการอื่นมารองรับด้วย
สำหรับปัญหายาเสพติด ที่แก้กันอยู่ตอนนี้ อาจเรียกว่าเป็นปลายเหตุ เพราะต้นเหตุจริง ๆ คือ ทำอย่างไร ไม่ให้ลูกหลานของเราไปข้องเกี่ยวกับยาเสพติด ครอบครัวเป็นปัจจัยสำคัญ ที่จะช่วยสกัดไว้ตั้งแต่ต้นทางได้
